เมื่อไม่นานมานี้ ประสบการณ์ความเพลิดเพลิน (Flow Experience) ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกถึงการมีปฏิสัมพันธ์ได้มากขึ้น กลายเป็นคำยอดฮิตในหมู่ผู้บริโภคเกม ละครและอาหาร หมายถึงการใช้อุปกรณ์บางอย่าง การจัดแสงไฟ และศิลปะการแสดง ฯลฯ เพื่อกระตุ้นประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสและประสาทรับรู้ของผู้คน และเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้เข้าร่วมและหลอมรวมเข้าไปในสภาพแวดล้อม
เบื้องหลังการประสบการณ์ความเพลิดเพลิน แท้จริงแล้วคือการเปลี่ยนแปลงในด้านความต้องการของผู้บริโภค สืบเนื่องจากการยกระดับการบริโภคของผู้คนโดยทั่วไป และความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงให้ความสำคัญกับความแปลกใหม่ การสัมผัสประสบการณ์ และการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบในกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้น จึงได้เกิดเป็นเศรษฐกิจเชิงสัมผัสประสบการณ์ขึ้นมา การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีช่วยส่งเสริมการสัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงได้เป็นอย่างมาก ปัจจุบันการแสดงแสงสีเสียงที่วิจิตรตระการตาและโชว์ที่จัดแสดงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของผู้คน
เมืองมหัศจรรย์แห่งโรงละครสร้างการสัมผัสประสบการณ์ดำดิ่งสู่ความเพลิดเพลิน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ณ โรงละคร “เหอหนานเท่านั้นที่มี•เมืองมหัศจรรย์แห่งโรงละคร” (Only Henan Drama Fantasy City) ในอำเภอจงโหมว เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน นักท่องเที่ยวทัวร์กลางคืนกำลังตั้งตารอให้ละครเวทีอันยิ่งใหญ่เปิดฉากขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ แสงไฟสว่างขึ้น “ภาพริมแม่น้ำในเทศกาลเชงเม้ง” และ “ภูเขาแม่น้ำพันลี้” ซึ่งเป็นภาพวาดโบราณที่สำคัญของจีนฉายขึ้นบนผนังกำแพงที่มีความยา 328 เมตร สร้างความตื่นตาตื่นใจราวกับย้อนเวลากลับไปยุคอดีตในทันที
“ในตอนกลางวัน ท้องฟ้าสีคราม เมฆสีขาวและลานดินสีเหลืองธรรมดา ๆ ช่วยเสริมกันให้โดดเด่น เกิดเป็นภาพที่กลมกลืนกันตามธรรมชาติ เมื่อถึงตอนกลางคืน เมืองมหัศจรรย์แห่งโรงละครจะ ‘แปลงโฉม’ ในทันใด โดยมีการแสดงแสงสีเสียงอลังการและทันสมัยทั่วทั้งเมือง เพียงก้าวเท้าไปก็จะเปลี่ยนฉาก ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน” สุน เสี่ยวหลิง หญิงสาวชาวเหอหนานที่ทำงานอยู่ในเมืองกว่างโจวใช้โอกาสวันหยุดในช่วงวันชาติจีนเพื่อกลับบ้านเกิด เธอรีบมาเช็คอินที่เมืองมหัศจรรย์ทันที เธอใช้เวลา 3 วันเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ในโรงละคร 21 แห่ง และอุทานว่า “น่าทึ่งที่สุด”อยู่ตลอดเมื่อเห็นรายชื่อละครหลักสามเรื่อง ได้แก่ “เมืองมหัศจรรย์” “สถานีรถไฟ” และ “หมู่บ้านหลี่เจียชุน” “สิ่งที่เห็นไม่เพียงแต่เป็นการแสดงแสงสีเสียงเท่านั้น แต่ยังได้เห็นภาพประวัติศาสตร์ห้าพันปีของชนชาติจีนที่ค่อย ๆ เผยให้เห็นทีละน้อย ๆ บนดินแดนแห่งที่ราบภาคกลางอีกด้วย”
นับตั้งแต่เปิดเมืองเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมืองมหัศจรรย์แห่งโรงละคร ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 450,000 คน และได้กลายเป็นหน้าต่างบานใหม่และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้วัฒนธรรมของที่ราบภาคกลางอย่างรวดเร็ว ที่นี่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 415,000 ตร.ม. มีลานเป็นตาราง 56 ช่องเหมือนเขาวงกต มีโรงละครน้อยใหญ่ทั้งหมด 21 โรง มีรายการแสดงละครความยาวทั้งหมดเกือบ 700 นาที และมีนักแสดงเกือบพันคนร่วมกันบอกเล่าเรื่องราวของ “ผืนแผ่นดิน อาหาร และการสืบทอด” นับว่าเป็นแหล่งรวมโรงละครที่ใหญ่ที่สุดและมีระยะเวลาการแสดงที่ยาวนานที่สุดในโลกปัจจุบัน
รูปแบบการแสดงของโรงละครมีตั้งแต่การใช้ประสบการณ์ความเพลิดเพลิน แบบเดินชม ไปจนถึงมีที่นั่งแบบตายตัวให้ผู้ชมนั่ง ส่วนรูปแบบโรงละครก็มีหลากหลายครบครันตั้งแต่ที่เป็นเวทีสี่เหลี่ยมอยู่ตรงกลางและมีที่นั่งล้อมรอบแบบดั้งเดิมเวทีอัฒจันทร์ซึ่งมีที่นั่งสามด้าน เวทีที่ตั้งอยู่ตรงกลาง เวทีแบบยิมเนเซียม ไปจนถึงเวทีฟรีสไตล์ที่สามารถเดินได้โดยรอบ เป็นการหลอมรวมวัฒนธรรมเข้ากับเทคโนโลยีในเชิงลึก ผ่านการทดลองสร้างสรรค์นวัตกรรมจำนวนมาก เพื่อค้นหาการแสดงที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อประสาทการมองเห็น โดยการผสมผสาน “แสง” “เสียง” “ไฟ”และ “ภาพวาด” เข้าไว้ด้วยกัน และระบบดิจิทัลอัจฉริยะก็ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก
ในโรงละครขนาดใหญ่ทุกแห่งมีมีเดียเซิร์ฟเวอร์ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย เครื่องฉายภาพหลายเครื่องประกอบกันเป็นระบบการฉายภาพ และใช้การประมวลผลแบบกริด (Grid computing) ทำให้เกิดการผสมผสานการฉายภาพฉากหลังในหลากหลายรูปแบบการฉายภาพ 3 มิติสะท้อนบนภูเขา และฉายภาพวงแหวน 360° ฯลฯ เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนฉากหลังไปตามการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเรื่องตัวกลางที่ติดตั้งไว้แต่ละแห่งจะฉายภาพที่เข้ากันกับฉาก อีกทั้งยังผสมผสานแสงและเงาได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์แสงและเงาที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว อุปกรณ์องค์ประกอบศิลป์บนเวทีอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงละคร ได้แก่ แท่นยก แท่นหมุน เครื่องพลิกกลับด้านอัจฉริยะ เสาสลิง ฯลฯมีการควบคุมด้วยระบบอัจฉริยะ ทำให้ทุกเวทีเปลี่ยนรูปแบบไปได้ต่าง ๆ นานา เป็นการทลายกรอบเดิม ๆ และบุกเบิกรูปแบบใหม่ของละครเวที จึงเปรียบเหมือนเมืองมหัศจรรย์แห่งโรงละคร
“เพลิดเพลินกับการทดลองใช้สินค้าจริง” ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ร้านค้าปลีก
เมื่อห้างสรรพสินค้านำประสบการณ์ความเพลิดเพลินมาใช้ จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์แบบไหนบ้าง
ห้างสรรพสินค้าในรูปแบบประสบการณ์ความเพลิดเพลินสร้างขึ้นมาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยี ศิลปะ และมนุษยศาสตร์โดยบูรณาการประสาทสัมผัสในด้านต่าง ๆ ทั้งการมองเห็น การได้ยิน กลิ่น รส และการสัมผัส เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการบริโภคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
แฟล็กชิปสโตร์ของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจิงตง (JD.com) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหนานหนิงเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง กว่างซี แตกต่างไปจากห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือนแบบดั้งเดิม โดยได้มีการสร้างโซนสัมผัสประสบการณ์แบบมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งมีธีมหลักมากมาย อาทิ ห้องครัวตัวอย่างซึ่งติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวแบบบิวท์อินทั้งชุด (built in หมายถึงเครื่องใช้ที่ติดตั้งเข้ากับพื้นที่นั้นโดยเฉพาะ) โซนซักทำความสะอาดและดูแลเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์“บาร์ออกซิเจนระบบนิเวศ” ซึ่งเป็นห้องโถงที่มีไว้สำหรับสัมผัสประสบการณ์เครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะ โซนการเดินทางอัจฉริยะโซนแข่งขัน e-sports โซนสัมผัสประสบ-การณ์ความงามและการดูแลส่วนบุคคล โซนทดลองบินโดรน ห้องเรียนอาหาร โซนเช็คอินสินค้าอินเทรนด์ ฯลฯ แต่ละโซนเต็มเปี่ยมด้วยกลิ่นอายของเทคโนโลยีและแฟชั่น คุณเซียวซึ่งเป็นผู้บริโภคที่มาสัมผัสประสบการณ์ที่ห้างสรรพสินค้ากล่าวว่า “เราไม่เพียงแต่มองเห็นและสัมผัสตัวสินค้าได้เท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสสภาพแวดล้อมการใช้งานของผลิตภัณฑ์ได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเรายังสามารถนำเสื้อผ้า เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และวัตถุดิบอาหารที่ต้องการทำความสะอาดมาที่ร้าน เพื่อทดลองใช้สินค้า เช่น เครื่องซักผ้าพลังลม เครื่องล้างจาน เตาอบและหม้อนึ่ง นอกจากนี้ภายในร้านยังจัดแสดงบริการการออกแบบแพ็คเกจตกแต่งบ้านอัจฉริยะ เมื่อเดินช้อปปิ้งที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เราจะไม่ประสบปัญหา ‘ดูได้อย่างเดียว แต่ลองใช้ไม่ได้’ เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป”
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 HAUS SHANGHAI ซึ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีกที่ใช้ประสบการณ์ความเพลิดเพลินได้เปิดให้บริการที่ถนนหวฺายไห่ นครเซี่ยงไฮ้ นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นต้นมา การออกแบบร้านค้าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ดึงดูดแฟนคลับจากทั่วโลกด้วยศิลปะและนวัตกรรม เช่น ร้านแว่นตาแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า ถึงแม้ว่าร้านจะตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่โดดเด่นในห้าง แต่ทุก ๆ ปีทางร้านก็ทุ่มเงินมหาศาลให้กับการออกแบบตกแต่ง สไตล์การตกแต่งความสวยงามของร้านค้าปลีกทุกร้านในโลกนี้มีไอเดียที่แปลกใหม่และแตกต่างอยู่เสมอ ดูไปแล้วเหมือนเป็นห้องโถงนิทรรศการสำหรับงานศิลปะการจัดวางมากกว่า ทุก ๆ ไตรมาส ร้านค้าจะใช้วิธีดึงดูดด้วยการตกแต่งที่สวยงาม เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการความแปลกใหม่ และยังดึงดูดลูกค้าให้หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากอีกด้วย ถึงขนาดมีลูกค้าบางคนไม่ได้มาเพื่อซื้อสินค้า แต่มาเพื่อใช้เป็นแลนด์มาร์กจุดเช็คอินและเยี่ยมชมนิทรรศการศิลปะ
“ประสบการณ์ความเพลิดเพลิน” ได้กลายเป็นวิธีการทางการตลาดหลักของห้างสรรพสินค้าไปแล้ว ห้างสรรพสินค้าจำนวนไม่น้อยได้สร้างธีมประสบการณ์ความเพลิดเพลิน ผสมผสานเนื้อหาประสบการณ์ความเพลิดเพลินในสถานที่ที่เป็นแหล่งบริโภค และใช้ประสบการณ์ความเพลิดเพลินเพื่อรับรู้ประสบการณ์ทางประสาท
สัมผัสของผู้บริโภค เพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับห้างสรรพสินค้าให้มากขึ้น และกระชับความสัมพันธ์กับผู้บริโภคให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้น ผู้ประกอบธุรกิจจำนวนมากเห็นว่าพฤติกรรมที่เป็นจิตใต้สำนึกของผู้บริโภคในปัจจุบันคือการแสวงหาความแปลกใหม่ ซึ่งเป็นความต้องการที่อยู่ส่วนลึกภายในจิตใจ สิ่งที่ผู้บริโภคซื้อจริง ๆ ไม่ใช่สินค้า แต่เป็นความแปลกใหม่ ผู้ประกอบธุรกิจต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้ออย่างต่อเนื่อง
“การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม + เกมไขคดีปริศนา”สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของเกมด้วยการดำดิ่งสู่ความเพลิดเพลิน
ในห้องโถงศาลบรรพบุรุษอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี คนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดจีนโบราณอันเป็นเอกลักษณ์เดินไปมาอยู่ตามตรอกโบราณ ไม่ว่าจะค้นหาและตรวจสอบข้อมูล ฝ่าด่านและถอดรหัส พวกเขามีความคิดและเป้าหมายที่ต่างกัน หลังจากปะทะฝีปากกันสักพักหนึ่ง “ฆาตกร” ก็ปรากฏตัวขึ้น... นี่ไม่ใช่ฉากตอนหนึ่งในภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ แต่เป็นฉากเกมไขคดีปริศนาของเกม “โรงเย็บปักมังกรหงส์” ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง “เกมไขคดีปริศนา” หมายความว่าผู้เล่นแสดงบทบาทเป็นตัวละคร และรวบรวมเบาะแสภายใต้การแนะนำของผู้ดำเนินเกม เพื่อให้บรรลุภารกิจที่กำหนดไว้ในบทละครได้ในที่สุด
ในช่วงวันหยุดสัปดาห์ทองวันชาติจีน เขตฮัวตู เมืองกว่างโจวได้ใช้จุดเด่นทางวัฒนธรรมของกลุ่มสถาปัตยกรรมศาลเจ้าบรรพบุรุษจือเจิ้งไต้ฝู ผสมผสานเข้ากับรูปแบบความบันเทิงที่กำลังเป็นที่นิยมของคนหนุ่มสาวในเวลานี้ และเปิดตัวโครงการ “โรงเย็บปักมังกรหงส์”ให้ได้สัมผัสประสบการณ์เกมไขคดีปริศนา ณ ศาลบรรพบุรุษโบราณขนาดใหญ่เป็นแห่งแรก ประสบการณ์ความเพลิดเพลินในบรรยากาศสถานที่จริงได้ดึงดูดผู้เล่นมากมายให้หลั่งไหลเข้ามา
ภูมิหลังของเรื่อง “โรงเย็บปักมังกรหงส์” เกิดขึ้นที่ศาลบรรพบุรุษจือเจิ้งไต้ฝู เรื่องราวถูกดัดแปลงและนำมาสร้างสรรค์ใหม่ ในระหว่างการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวหลายคนได้สัมผัสประตูกลไกทะลุมิติเวลา “ย้อนเวลา” กลับไปที่โรงเย็บปักมังกรหงส์ของตระกูลซูในสมัยราชวงศ์ชิง พวกเขากลายเป็นคุณนาย คุณชาย ช่างปัก และคนงานของตระกูลซู นอกจากนี้ยังมีมือปราบที่ว่าการอำเภออีกด้วย พวกเขาประสบเหตุฆาตกรรมในตระกูลซู และได้เริ่มการเดินทางสืบหาความลับที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เรื่อง “โรงเย็บปักมังกรหงส์” ไม่เพียงแต่อรรถาธิบายถึงโครงเรื่องที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนชวนฉงนสงสัยได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังผสมผสานองค์ประกอบของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเข้าไปในเนื้อเรื่องได้อย่างชาญฉลาด เช่น เทคนิคการสร้างสรรค์งานปักดิ้นทอง เทคนิคการทำปูนปั้น และอาหารท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวสวมบทบาทตัวละครสมมุติ หาคำตอบ ถอดรหัส ค้นหาหลักฐานและไขคดี ได้สัมผัสโลกเสมือนจริง และได้เข้าใจมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น
ณ ที่แห่งนี้ ผู้เล่นสามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์การปักลายชุดและการทำปูนปั้นด้วยตนเอง เพื่อให้ได้เบาะแสในการถอดรหัส ภายใต้การผลักดันของโครงเรื่องที่ตื่นเต้นและชวนขบคิด จึงทำให้ศิลปะดั้งเดิมที่ตามปกติธรรมดาแล้วมักจะน่าเบื่อเล็กน้อยกลับมามีชีวิตชีวาและน่าสนใจยิ่งขึ้น รูปแบบการเล่นเกมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งผสมผสานกระ-แสนิยมกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ของวัฒนธรรมดั้งเดิม