เวลา 2 ทุ่ม ภายในห้องฟิตเนสที่ว่างเปล่า เฉิง ถิงถิง เทรนเนอร์สอนเต้นกำลังกางขาตั้งกล้อง ตั้งมือถือ ปรับแสงในห้องฟิตเนส เตรียมตัวไลฟ์สดสอนเต้นระบำหน้าท้องผ่านโทรศัพท์มือถือ
“ท่านี้ทุกคนทำเป็นแล้วใช่ไหม ใครทำเป็นแล้วช่วยกด 1 ใครยังทำไม่เป็นช่วยกด 2 ด้วยนะคะ” ระหว่างที่สาธิตท่าทางต่าง ๆ เฉิง ถิงถิงจะคอยเดินมาเช็คที่หน้าจอมือถืออยู่ตลอด ภาพแบบนี้เป็นสิ่งที่เทรนเนอร์ซึ่งทำงานมาถึง 9 ปีไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ผู้คนจำนวนมากจำเป็นต้อง “กักตัว” อยู่กับบ้าน แต่ความต้องการออกกำลังกายกลับมิได้น้อยลงเลย ทำให้ธุรกิจฟิตเนสต้องย้ายมาอยู่บน “ออนไลน์” ด้วย อาศัยรูปแบบคอร์สเรียนออนไลน์กับการไลฟ์สดเพื่อให้บริการ “ฟิตเนสออนไลน์” แก่ผู้ชมถึงบ้าน
“มีผู้ชมไลฟ์สดออกกำลังกายบน Tik Tok นับหมื่นคน นี่เป็นจำนวนที่สูงมากถ้าเป็นระบบออฟไลน์คงยากที่จะมีห้องเรียนที่รองรับผู้คนได้มากถึงขนาดนี้และนี่เป็นช่องทางที่จะส่งเสริมการออกกำลังกายให้แก่ประชาชนด้วย” เฉิง ถิงถิงกล่าว ภายหลังจากเปิดไลฟ์สด แฟนคลับที่ติดตาม Tik Tok ของเธอจากเริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้อยคนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2,000 คนแล้ว
นอกจากจะมีบริการ “ฟิตเนสออนไลน์” แล้ว บรรดาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายออนไลน์ต่างก็มีบทบาทสำคัญในกระแส “ฟิตเนสออนไลน์” นี้เช่นกัน อย่างกรณีของคุณเฉิน พนักงานออฟฟิศในเมืองที่บริหารหน้าท้องตามคลิปอย่างสม่ำเสมอ “หลักสูตรสร้างกล้ามเนื้อวีไลน์” ในแอปออกกำลังกาย Keep ระหว่างช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด - 19 “แต่ก่อนที่บ้านมีฉันคนเดียวที่ออกกำลังกาย ตอนนี้กลายเป็นกิจกรรมในครอบครัวตามวิถี New Normal ไปแล้ว” คุณเฉินกล่าว
โรคโควิด - 19 ที่อุบัติขึ้นในปีนี้ ทำให้การออกกำลังกายของผู้คนเกิดการเปลี่ยนแปลง มีวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่เพิ่มขึ้น กลุ่มคนที่ออกกำลังกายก็เพิ่มขึ้นด้วย ที่สำคัญคือ ได้สร้างนิสัยการออกกำลังกายขึ้นในประเทศจีน ตั้งแต่คนหนุ่มสาวที่คอยปาดเหงื่อที่ไหลย้อยในห้องฟิตเนส จนถึงผู้สูงอายุที่รำไทเก็กอยู่ในสวนสาธารณะตั้งแต่คนที่ชอบ “จ๊อกกิ้งยามดึก” ตามถนน จนถึงคนที่ชอบปั่นจักรยานในวันหยุดสุดสัปดาห์ ตั้งแต่คนที่ชอบปีนเขาในฤดูร้อน จนถึงคนที่ชอบเล่นสกีในฤดูหนาว...นับวันยิ่งจะมีชาวจีนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกลายเป็นธุรกิจหนึ่งที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศจีน
นอกจากนั้น ทัศนคติด้านการทานอาหารเพื่อสุขภาพก็อยู่ในความสนใจของผู้คนตลอด เช่นปฏิบัติตาม “การรณรงค์ทานให้หมดจาน” อย่างเคร่งครัด ในสังคมนอกจากจะเกิดกระแสนิยมที่ดีงามอย่าง “คัดค้านความฟุ่มเฟือยทานอาหารอย่างประหยัด” แล้ว ยังกระตุ้นให้เกิดนิสัยกินเพื่อสุขภาพในหมู่ประชาชนด้วย หากออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน เมื่อทานไม่หมดทุกคนต่างก็คุ้นเคยกับการห่ออาหารที่เหลือกลับบ้าน เวลาทำอาหารทานเองที่บ้าน ก็จะใช้อุปกรณ์ชั่งตวงวัดอาหารไซส์เล็ก เพื่อวัดปริมาณวัตถุดิบอาหารทั้งข้าวสาร เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ อย่างละเอียด