บทวิเคราะห์ : กรุงปักกิ่งจัดอภิปรายด้านสิทธิมนุษยชน สหรัฐฯไม่ใช่ “ผู้พิพากษา”

ระหว่างเข้าร่วมการประชุมฟอรั่มระดับสูงด้านการบริหารสิทธิมนุษยชนรอบโลกที่กรุงปักกิ่ง นายอัคมัล ไซยดอฟ รองประธานรัฐสภาที่ 1 ผู้อำนวยการศูนย์สิทธิมนุษยชนแห่งชาติอุซเบกิสถาน ได้กล่าวประเมินค่าอย่างสูงต่อข้อริเริ่มที่เสนอโดยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนว่า “จดหมายอวยพรของนายสี จิ้นผิง แสดงให้เห็นถึงความนึกคิดอย่างลึกซึ้งที่มีต่อการพัฒนาของสิทธิมนุษยชนรอบโลก” เขายังแสดงความคิดเห็นว่า ความมั่นคง การพัฒนาและความร่วมมือเป็นเสาค้ำสำคัญ 3 เสาของการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

โดยวันที่ 14 มิถุนายน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้ส่งจดหมายอวยพรต่อการประชุมฟอรั่มระดับสูงดังกล่าว และเสนอว่า ให้ความมั่นคงคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ให้การพัฒนาส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ให้ความร่วมมือผลักดันสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติตามข้อริเริ่มความมั่นคงทั่วโลก ข้อริเริ่มการพัฒนาทั่วโลกและข้อริเริ่มอารยธรรมทั่วโลก ทั้งนี้เป็นข้อเสนอล่าสุดของจีนเพื่อการบริหารสิทธิมนุษยชนรอบโลก มีความเจาะจงที่แท้จริงและชัดเจนเป็นการชี้นำสำคัญสำหรับการส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ทำให้บรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมมีเสียงสะท้อนที่สนับสนุนอย่างกว้างขวาง 

สิทธิมนุษยชนเป็นอุดมการณ์ร่วมกันของมนุษย์ ไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นอาวุธทางการเมือง แต่ประเทศตะวันตกบางประเทศไม่มองสิ่งที่เลวร้ายในด้านสิทธิมนุษยชนของตน แต่จะถือข้ออ้าง “สิทธิมนุษยชน”ในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ยับยั้งการพัฒนาของประเทศอื่น จีนเห็นว่า ประเทศใดประเทศหนึ่งล้วนไม่สามารถแปลงตัวเป็น “ผู้พิพากษา” ด้านสิทธิมนุษยชน ประเทศต่างๆล้วนมีสิทธิ์คัดเลือกหนทางการพัฒนาสิทธิมนุษยชนด้วยตนเอง 

“มีแต่ประชาชนประเทศต่างๆล้วนใช้ชีวิตที่ดีมีความเจริญรุ่งเรืองจึงจะอยู่ได้อย่างถาวร ความมั่นคงจึงมีหลักประกัน และสิทธิมนุษยชนจึงจะมีพื้นฐาน” “จีนเป็นประเทศใหญ่ที่สำคัญเพียงประเทศเดียว ที่ได้กำหนดและปฏิบัติตามแผนการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 4 ฉบับอย่างต่อเนื่อง และได้ประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด” ปัจจุบัน จีนกำลังผลักดันกระบวนการความทันสมัยแบบจีน ระหว่างการนี้ จีนจะหารือและร่วมมือกับประชาคมโลกต่อไป ปรับปรุงการบริหารสิทธิมนุษยชนทั่วโลกให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนจีนใช้ชีวิตดีขึ้น และทำให้สิทธิมนุษยชนของประชาชนทั่วโลกมีหลักประกันที่ดียิ่งขึ้น