“ธุรกิจเล็กๆ” ที่สี จิ้นผิงใส่ใจ

เมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ.2023  นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีน ได้ตรวจเยี่ยม “เมืองการค้าระหว่างประเทศอี้อู” มณฑลเจ้อเจียง โดยได้ให้กำลังใจบรรดาพ่อค้าแม่ขายให้สร้างความรุ่งโรจน์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป

   “ธุรกิจขนาดเล็ก” ก็สามารถบุกเบิกให้เป็น“ตลาดใหญ่” ได้เช่นกัน ตลาดขายส่งสินค้าขนาดเล็กที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้มีร้านค้า 75,000 ร้าน มูลค่าการซื้อขายมากกว่า 200,000 ล้านหยวนต่อปี พ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อซื้อสินค้าและหารือเกี่ยวกับความร่วมมือ ยอดผู้เข้าออกตลาดเฉลี่ยต่อวันกว่า 200,000 คน โดยเฉลี่ยแล้วมีสินค้าที่ถูกส่งด่วนจากที่นี่ไปยังลูกค้าทั่วโลกถึง 30 ล้านชิ้น

จาก  “ขนไก่แลกน้ำตาล” สู่“ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับโลก”   ช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา อี้อูได้บันทึกตำนานบทใหม่อย่างต่อเนื่อง  นายสี จิ้นผิง กำหนดสถานะอี้อูให้เป็น “ศูนย์กลางสินค้าขนาดเล็กของโลก” ส่งเสริมอี้อูดำเนินการปฏิรูปการค้าระหว่างประเทศอย่างครอบคลุมเพื่อบรรลุการพัฒนาแบบก้าวกระโดด

เดือนธันวาคม ค.ศ. 2002 ไม่นานหลังนายสี จิ้นผิงเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียง ได้เดินทางมายังเมืองการค้าระหว่างประเทศอี้อู ตรวจเยี่ยมพื้นที่ค้าขายในตลาดเพื่อดำเนินการศึกษาวิจัยเชิงลึก

ในช่วงที่ทำงานในระดับท้องถิ่น นายสี จิ้นผิงได้ไปตรวจเยี่ยมพร้อมดำเนินการศึกษาวิจัยที่เมืองอี้อูรวม 12 ครั้ง โดยลงลึกเข้าไปในตลาดสินค้าขนาดเล็กหลายครั้ง พร้อมขอให้ “เปลี่ยนเสื้อตัวใหญ่ให้กับอี้อูซึ่งเสมือนเด็กที่เติบโตเร็ว” ขจัดอุปสรรคด้านระบบและกลไกเกี่ยวกับการระดมเงินทุน การนำเข้าและส่งออก ฯลฯ ที่จำกัดการพัฒนาของอี้อู เพื่อทำให้ตลาดสินค้าขนาดเล็กอี้อูปลดปล่อยพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ค้อน ประแจ ร่มกันแดด ร่มกันฝน... สิ่งของเล็กๆ ที่ดูไม่เด่นเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของชาวบ้านในด้านต่างๆ ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาของอุตสาหกรรมหลากหลายสาขา ส่งผลต่อการหมุนเวียนและการค้าสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งยังได้แก้ไขปัญหาการจ้างงานของผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน

นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนแห่งชาติครั้งที่ 18 เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิงใส่ใจเรื่อง “ธุรกิจขนาดเล็ก” ตลอดจนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนซึ่งอยู่เบื้องหลังของ “ธุรกิจขนาดเล็ก”มาโดยตลอด

เดือนเมษายน ปี 2020 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปตรวจเยี่ยมหมู่บ้านจินหมี่ ตำบลเสี่ยวหลิง อำเภอจ้าสุ่ย เมืองซางลั่ว มณฑลส่านซี โดยได้เดินเข้าไปในโรงเรือนเพาะเห็ดหูหนูอัจฉริยะ ได้หยิบ “เห็ดหูหนูจิ๋ว” ขึ้นมาหนึ่งดอกพร้อมกล่าวชมเชยว่า “เห็ดหูหนูมีชื่อเสียงมาก ต้องพึ่งพาธุรกิจเพาะเห็ดหูหนูในการขจัดความยากจน  เห็ดเล็ก ๆ ก็กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้”

หนึ่งเดือนต่อมา คือ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2020 ณ ฐานการปลูกดอกไม้จีนออร์แกนิกซึ่งได้มาตรฐานในเขตหยุนโจว เมืองต้าถง มณฑลซานซี นายสี จิ้นผิงได้เดินเข้าไปในทุ่งนาเพื่อสังเกตการเติบโตของดอกไม้จีน โดยกำชับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าต้องปกป้องและพัฒนาอุตสาหกรรมดอกไม้จีนให้ดีให้ได้และทำให้มันกลายเป็นสินค้าที่สร้างความมั่งคั่งให้กับบรรดาชาวบ้าน

เดือนเมษายน ปี 2021 นายสี จิ้นผิง เดินทางไปยังแหล่งรวมบริษัทผลิตก๋วยเตี๋ยวซุปหอยทากแม่น้ำในเมืองหลิ่วโจว เขตกวางสี เพื่อสำรวจสถานการณ์การส่งเสริมการจ้างงาน การเพิ่มรายได้ของชาวนาและด้านอื่นๆของก๋วยเตี๋ยวซุปหอยทากแม่น้ำซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีเอกลักษณ์ โดยกล่าวชื่นชมว่า “น่าทึ่งมากจริงๆ！ ก๋วยเตี๋ยวเล็กๆได้พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เช่นนี้  ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน ควรค่าการศึกษาและสรุปประสบการณ์”

ด้วยการส่งเสริมของนายสี จิ้นผิง “ธุรกิจขนาดเล็ก”   เหล่านี้ได้ “ติดปีกให้ธุรกิจพุ่งทะยาน”จนกลายเป็น “อุตสาหกรรมขนาดใหญ่” ที่สร้างความมั่งคั่ง

ปัจจุบัน อำเภอจ้าสุ่ยซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาฉินหลิง ได้สร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่หลอมรวมการเกษตร การค้าและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันด้วยการชูเห็ดหูหนูเป็นหลัก โดยทั้งปีสามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 650 ล้านหยวน

นับถึบปี 2022 มูลค่าผลผลิตของทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมดอกไม้จีนของเมืองต้าถงเกิน 4,000 ล้านหยวน ผลิตภัณฑ์ดอกไม้จีนส่งออกไปยังประเทศและภูมิภาคต่างๆ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แคนาดา เป็นต้น

ปี 2022 รายได้จากการขายทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยวซุปหอยทากแม่น้ำของหลิ่วโจวอยู่ที่ 60,070 ล้านหยวน โดยทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมนี้ได้ขับเคลื่อนให้มีการจ้างงานมากกว่า 300,000 ตำแหน่ง ก๋วยเตี๋ยวชามเล็กๆที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ชามนี้ได้กลายเป็น “นามบัตรทอง”ของเมืองหลิ่วโจวไปแล้ว