ป่าชาโบราณภูเขาจิ่งม่ายเมืองผูเอ่อร์ มรดกโลกทางวัฒนธรรม
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในงานมหกรรมท่องเที่ยวนานาชาติจีน (CITM) ประจำปี 2566 ได้จัดให้มีพิธีเปิด "ภูมิทัศน์วัฒนธรรมป่าชาโบราณภูเขาจิ่งม่ายเมืองผูเอ่อร์มรดกโลกทางวัฒนธรรม" ขึ้นที่ภูเขาจิ่งม่าย เมืองผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 "ภูมิทัศน์วัฒนธรรมป่าชาโบราณภูเขาจิ่งม่ายเมืองผูเอ่อร์" ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกและกลายเป็นมรดกโลกด้านชาแห่งแรกของโลก
"ภูมิทัศน์วัฒนธรรมป่าชาโบราณภูเขาจิ่งม่ายเมืองผูเอ่อร์" ตั้งอยู่ในอำเภอปกครองตนเองชนชาติลาหู่-ล้านช้าง เมืองผูเอ่อร์ มณฑลยูนนา โดยมีประวัติความเป็นมาเริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10 เป็นต้นมา บรรพบุรุษของชนชาติปู้หลังและไตได้อพยพไปยังภูเขาจิ่งม่ายเพื่อตั้งรกรากและได้ค้นพบรู้จักต้นชาป่าที่นี่ รวมถึงใช้ระบบนิเวศแบบป่าเพื่อค้นพบเทคนิคการปลูก "ชาใต้ป่า" และค่อย ๆ ก่อตัวเป็นป่าชาโบราณขนาดนับหมื่นหมู่ (หนึ่งไร่ราว 2.41 หมู่)
"โครงสร้างป่าที่นี่สมบูรณ์มาก" หลาน เจิงฉวน ผู้เชี่ยวชาญด้านต้นชาโบราณของมหาวิทยาลัยวนศาสตร์ตะวันตกเฉียงใต้แนะนําว่า การใช้ระบบนิเวศป่าไม้เพื่อให้สารอาหารและป้องกันศัตรูพืชและโรคโดยไม่ต้องผ่านการปรับปรุงสายพันธุ์และใช้ยาฆ่าแมลง เพื่อเอื้อต่อการผลิตชาออแกนิคคุณภาพสูง "ปัจจุบัน สวนชาส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบการปลูกชาขนาดใหญ่ แต่ผมคิดว่ารูปแบบการปลูกชาแบบดั้งเดิมนี้มีคุณค่ายิ่งกว่า" หลาน เจิงฉวนกล่าว
ลึกเข้าไปในป่าชาเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านโบราณ ซู กั๋วเหวิน วัย 80 ปี ก็อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหมางจิ่งบนภูเขาจิ่งม่าย "ชาแยกออกจากชีวิตของเราไม่ได้" คุณซูกล่าว ปัจจุบัน ตราบเท่าที่ร่างกายยังสู้ไหว เขาจะไปเก็บชาและทําชากับครอบครัวทุกปี อนึ่ง วัฒนธรรมดั้งเดิมของการใช้ธรรมชาติและความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและชาได้หลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตของชาวบ้านมานานแล้ว เช่น ใบชาบรรจุในหลอดไม้ไผ่ กระเป๋าทําจากไม้สาน และหลังคาของหมู่บ้านตกแต่งด้วยลวดลายของต้นชาโบราณ เป็นต้น
แหล่งที่มา:หนังสือพิมพ์ The People's Daily และ Yunnan.cn
โกว เสี่ยวหรง/แปล
จารุวรรณ อุดมทรัพย์/พิสูจน์อักษร