เมื่อเร็ว ๆ นี้ แกรี่ ฮัฟบาวเออร์ (Gary Hufbauer) นักวิจัยอาวุโสสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งปีเตอร์สัน(Peterson Institute for International Economics)ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนักข่าวจากสำนักข่าวซินหัวว่า สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับแรงกดดันสูงจากเงินเฟ้อ รัฐบาลสหรัฐฯ ควรลดภาษีสินค้าจีนที่ส่งออกมายังสหรัฐอเมริกา ใช้มาตรการที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อและทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งปีเตอร์สันได้ประกาศบทสรุปนโยบายที่เขียนโดยฮัฟบาวเออร์ เขาชี้ว่าฝ่ายบริหารของไบเดนละเลยบทบาทของการเปิดเสรีการค้าในการลดอัตราเงินเฟ้อ บทสรุปพิจารณาว่า หากยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ และอัตราภาษีนำเข้าเหล็กกล้า ฯลฯ ที่กำหนดในบัญชีรายชื่อ "ความมั่นคงของชาติ" ในยุครัฐบาลทรัมป์ จะสามารถลดดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐได้ประมาณ 1.3 จุด
ฮัฟบาวเออร์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การยกเลิกหรือลดภาษีสินค้าจีนที่ส่งออกมายังสหรัฐอเมริกา จะมีบทบาทในการลดอัตราเงินเฟ้อ เขาพูดว่า ผลกระทบโดยตรงที่ได้จากมาตรการนี้คือช่วยลดดัชนี CPI ของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน ส่วนผลกระทบทางอ้อมจะยิ่งใหญ่ไปอีก เพราะจะเป็นสัญญาณบอกองค์กรในสหรัฐฯ ว่า พวกเขาจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่มากขึ้น ทำให้พวกเขาปรับเพิ่มราคาช้าลง "เรื่องนี้ช่วยลดระดับเงินเฟ้อและทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ"
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ แสดงว่า การเติบโตของ CPI ของสหรัฐฯ เมื่อเทียบเป็นรายปีนั้นสูงเกิน 6% เป็นเวลา 6 เดือนติดต่อกันแล้ว โดยในเดือนมีนาคม CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ได้สร้างสถติสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี
อนึ่ง ฮัฟบาวเออร์ ผู้เคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังได้กล่าวว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง การลดภาษี การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของระบบธนาคารกลางสหรัฐ และอื่น ๆ "มาตรการเหล่านี้ทั้งหมดจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ ทุกประการมีความสำคัญมาก"
ฮัฟบาวเออร์ยังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาอีกว่า เมื่อพิจารณาสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน คาดว่า ก่อนการเลือกตั้งกลางภาค ฝ่ายบริหารของไบเดนยากที่จะยกเลิกหรือลดภาษีเพิ่มเติมจากจีนในยุคทรัมป์ เพราะเมื่อภาษีเหล่านี้ถูกถอนออกแล้ว ฝ่ายบริหารของไบเดนจะเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐบางคนที่กล่าวว่า "อ่อนข้อ" ให้กับประเทศจีน ฮัฟบาวเออร์พูดว่า “ผมคิดว่าพวกเขาย่อมจะกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีต่อเศรษฐกิจของอเมริกา"