บ่ายวันที่ 16 มีนาคม นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนพูดคุยทางโทรศัพท์กับนาย Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย
โดยนายสี จิ้นผิงระบุว่าจีนกับอินโดนีเซียต่างเป็นตัวแทนประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจที่กำลังรุดหน้าอย่างรวดเร็วที่มีประชากรจำนวนมาก ในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงรอบศตวรรษและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อในรอบศตวรรษของโลก สองประเทศจับมือก้าวไปพร้อมกันท่ามกลางความยากลำบาก สร้างความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และทางทะเลทั้ง 4 ทางเพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคี เชิดชูประเด็นหลักความสามัคคีเพื่อต้านโควิด-19 และการพัฒนาร่วมกัน กำหนดทิศทางการร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของจีน-อินโดนีเซีย และสร้างแบบอย่างความร่วมมือที่มีความจริงใจระหว่างประเทศกำลังพัฒนาที่มีประชากรจำนวนมาก จีนยินดีรักษาการติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับอินโดนีเซีย เดินหน้าความร่วมมือฉันมิตรจีน-อินโดนีเซียให้ได้รับการพัฒนาใหม่อย่างต่อเนื่อง อัดฉีดความมั่นคงและพลังบวกเพื่อสถานการณ์การพัฒนาภูมิภาคและทั่วโลกมากขึ้น
นายสี จิ้นผิง ย้ำว่าสองฝ่ายควรปฏิบัติตามฉันทามติเกี่ยวกับโครงการเพิ่มความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 เพื่อต่อต้านโรคระบาด ประกันโครงการรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง (Jakarta-Bandung High-Speed Railway) สร้างแล้วเสร็จและเปิดเดินรถตามกำหนด ดำเนินโครงการ “ระเบียงเศรษฐกิจโดยรวมภูมิภาค” “สองนิคมสองประเทศ” และโครงการสำคัญอื่น ๆ ให้เป็นไปได้ด้วยดีและมีคุณภาพ ตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพื่อเร่งการพัฒนาของอินโดนีเซียและความร่วมมือสองประเทศ จีนสนับสนุนอินโดนีเซียแสดงบทบาทประธานประเทศกลุ่ม G20 จัดประชุมเกาะบาหลีด้วยดีตามหัวข้อ “การฟื้นตัวด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง”
ด้านนาย Joko Widodo ระบุว่า ขอแสดงความยินดีที่จีนปิด “ประชุมสองสภา” อย่างราบรื่น ขอแสดงความยินดีที่จีนประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว-งานกีฬาพาราลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 ด้วยความสำเร็จบนเสียงชื่นชม อินโดนีเซียยินดีร่วมมือกับจีนดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อสร้างความผาสุกแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ อินโดนีเซียยินดีติดต่อประสานงานกับจีนอย่างใกล้ชิด เดินหน้าภารกิจกลุ่ม G20 โฟกัสไปที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของโลก ผนึกกำลังแก้ไขปัญหาเร่งด่วนระดับโลก
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน