เส้นทางรถไฟจีน-ลาวนำพาชีวิตอันแสนสุข｜มือซ้ายถือถ้วยกาแฟ มือขวาถือถ้วยน้ำชา

เมืองผูเอ่อร์มณฑลยูนนาน เป็นทั้งแหล่งปลูกใบชาและยังอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟอันหอมหวนอีกด้วย ที่นี่นอกจากมีชาผูเอ่อร์ชื่อดังแล้ว ยังเป็นพื้นที่หลักในการปลูกและจำหน่ายกาแฟที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุด ผลการผลิตสูงสุด และคุณภาพกาแฟดีที่สุดของจีนอีกด้วย

และหลังการเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ก็ได้นำโอกาสการพัฒนาอันยิ่งใหญ่มาสู่เมืองผูเอ่อร์ ด้วยอุตสาหกรรมกาแฟและชาได้รับการพัฒนาและยกระดับอย่างรวดเร็ว โดยได้นำอุตสาหกรรมใบชาและกาแฟมาผสานเข้ากับการท่องเที่ยว ชาและกาแฟกลายเป็นสินค้าของฝาก พื้นที่สวนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว รังสรรค์ให้เมืองผูเออร์งดงามและมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

ณ ร้านกาแฟเสี่ยววาจื่อในหมู่บ้านหนานเต่าเหอ เขตซีเหมา เมืองผูเอ่อร์ เราจะเห็นพนักงานกำลังชงกาแฟให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาไม่ขาดสาย คุณเลี่ยว หงเหวิน เจ้าของร้านกาแฟแนะนำว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กาแฟผูเอ่อร์ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ ผนวกกับการเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ทำให้ร้านกาแฟมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างถิ่นมีสัดส่วนมากถึง 85% ปัจจุบัน ร้านกาแฟเสี่ยววาจื่อได้กลายเป็น “สถานที่เช็คอิน” บนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากกว่า 200 คนต่อวัน ช่วงสุดสัปดาห์อาจจะมากถึง 400 คนก็มี

คุณจาง อวี้ปิน ผู้บริหารของบริษัทสวนชาอัลไพน์จู่เสียงแนะนำว่า บริษัทจู่เสียงเริ่มปลูกชาออร์แกนิกตั้งแต่ปี 2541 ปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่ปลูกชาออร์แกนิกมากถึง 12,300 หมู่ (ราว 5,100 ไร่) มีผลิตภัณฑ์ชาต่าง ๆ มากกว่า 70 ชนิด บริษัทยังได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจากประเทศจีน อเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป นอกจากนี้ การผลิตจะเป็นไปตามมาตรฐานและมีความพิถิพิถันเข้มงวดทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูกชาจนไปถึงถ้วยชา ซึ่งด้วยวิสัยทัศน์เช่นนี้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจู่เสียงจึงได้ถูกจำหน่ายไปสู่มณฑลต่าง ๆ และยังถูกส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น อเมริการ เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส ไนจีเรีย เป็นต้น ช่วยนำรายได้ที่ดีมาสู่ชาวบ้านในท้องถิ่น

ที่มา：ยูนนานเดลี่

หูลี่เซียน/แปล

จารุวรรณอุดมทรัพย์//พิสูจน์อักษร