สำนักเลขาธิการสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) ประกาศว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2022
เมื่อวันพุธ (3 พ.ย.) สำนักฯ ได้รับสัตยาบันสารจาก 6 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม รวมทั้งจาก 4 ประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกอาเซียน ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์
“กระบวนการให้สัตยาบันที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วจากประเทศที่ร่วมลงนามความตกลงอาร์เซ็ป สะท้อนความมุ่งมั่นต่อระบบการค้าพหุภาคีที่ยุติธรรมและเปิดกว้าง เพื่อประโยชน์ของประชาชนในภูมิภาคและทั่วโลก” ดาโต๊ะ ลิม จ๊อก ฮอย เลขาธิการอาเซียนกล่าว พร้อมย้ำว่าการปฏิบัติตามความตกลงฯ จะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างมหาศาล
ความตกลงอาร์เซ็ป ซึ่งร่วมลงนามเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2020 เป็นข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ระหว่าง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม รวมทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ความตกลงอาร์เซ็ปจะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างน้อย 6 ประเทศ และประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกอาเซียน 3 ใน 5 ประเทศ ได้ร่วมกันให้สัตยาบันสารดังกล่าว
ทั้งนี้ ความตกลงอาร์เซ็ปจะยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าที่ซื้อขายระหว่างประเทศที่ร่วมลงนามถึงร้อยละ 90 ในอีก 20 ปีข้างหน้า ทันทีที่เริ่มมีผลบังคับใช