วันที่ 9 ตุลาคม ในการประชุมรำลึกครบรอบ 110 ปี การปฏิวัติซินไฮ่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวปราศรัยเน้นย้ำว่า “ภารกิจทางประวัติศาสตร์ของการรวมจีนเป็นเอกภาพโดยสิ้นเชิงนั้นต้องสำเร็จและย่อมจะสำเร็จได้” แสดงถึงความตั้งใจและเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพเหนือดินแดน ที่ประชุมมีเสียงปรบมือเป็นเวลานานซึ่งเป็นแสดงว่าให้เห็นว่า คำประกาศดังกล่าวเป็นเสียงแห่งจิตใจร่วมกันของประชาชาติจีน “ภารกิจทางประวัติศาสตร์ของการรวมจีนเป็นเอกภาพโดยสิ้นเชิง” เป็นประโยชน์พื้นฐานของประชาชาติจีนและภารกิจที่ไม่สามารถบรรลุได้ของการปฏิวัติซินไฮ่ จีนต้องรวมเป็นเอกภาพและย่อมจะสามารถรวมเป็นเอกภาพ นี่เป็นข้อสรุปทางประวัติศาสตร์ของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันในช่วงกว่า 70 ปีที่ผ่านมา และเป็นความต้องการฟื้นฟูความเจริญอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนในสมัยใหม่ โลกนี้มีเพียงจีนเดียว ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากจีน นี่เป็นความรับรู้ร่วมกันของประชาคมโลก
สำหรับสองฝั่งช่องแคบไต้หวันการบรรลุความเป็นเอกภาพแห่งชาติด้วยสันติวิธีนั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์โดยรวมของประชาชาติจีนรวมถึงชาวไต้หวัน แต่กลุ่ม “ไต้หวันเอกราช” ฝ่าฝืนหลักการจีนเดียวและความรับรู้ร่วมกัน “2 กันยา” อย่างเปิดเผย มุ่งทำลายกระบวนการเป็นเอกภาพอย่างสันติระหว่างสองฝั่ง โดยเฉพาะทางการไต้หวันชุดปัจจุบันถือโอกาสที่สหรัฐฯ กำลังผลักดัน “ยุทธศาสตร์อินเดีย-แปซิฟิก” หากำลังหนุนหลังจากสหรัฐฯ ก่อสิ่งท้าทายและความเสี่ยงไม่ขาดสาย จีนไม่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะละทิ้งการใช้กำลังอาวุธแต่จะสงวนสิทธิ์ใช้มาตรการที่จำเป็นทุกประการ ทั้งนี้ก็เพื่อเจาะจงต่อการแทรกแซงจากภายนอก กลุ่มอิทธิพลที่มุ่งหมายให้ไต้หวันเป็นเอกราชและการแบ่งแยกของพวกเขา
เมื่อจีนพูดอะไรก็ต้องปฏิบัติตาม ใครก็ตาม ล้วนอย่ามองข้ามความตั้งใจเด็ดเดี่ยวและกำลังเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยแห่งชาติและบูรณภาพเหนือดินแดนของประชาชนจีน