เรื่องราวของสี จิ้นผิงและคุณแม่

2021-05-11 16:47:40 |แหล่งที่มา: CRI

มาดามฉีซิน คุณแม่ของสี จิ้นผิงเข้าร่วมการปฏิวัติในช่วงต้นสงครามจีนต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นในทศวรรษ 1930 และเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยในเดือนมีนาคมปี 1939 มาดามฉีซินที่อายุ 15 ปีในตอนนั้น ได้เข้าร่วมการปฏิวัติในสงครามจีนต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ปีเดียวกัน

วันที่ 13 มกราคม ปี 1969 ในวัย 15 ปี เช่นกัน นายสี จิ้นผิง ได้แบกสัมภาระเดินทางถึงหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ และใช้เวลา 7 ปีวัยของวัยรุ่นที่นี่ สี จิ้นผิงเคยเขียนในบทความว่าเมื่ออายุ 15 ปีเดินทางถึงถิ่นทุรกันดารผมรู้สึกงงงวยและลังเล เมื่ออายุ 22 ปี ออกจากที่นั่น ผมมีเป้าหมายชีวิตที่แน่วแน่อยู่แล้วเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตนเอง

ช่วงระยะเวลา 7 ปี สี จิ้นผิงกับพวกชาวนากินข้าวด้วยกัน อยู่ที่เดียวกัน ทำไร่ไถนาด้วยกัน ได้รับการฝึกฝนจากชีวิตที่ยากลำบาก ก็อยู่ที่เหลียงเจียเหอ สี จิ้นผิงเคยเขียนหนังสือสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาแล้ว 10 ฉบับ จนเมื่อเดือนมกราคมปี 1974 ที่เหลียงเจียเหอ สี จิ้นผิงที่อายุ 20 ปีในตอนนั้นได้กลายเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างเป็นทางการ

ที่เหลียงเจียเหอ กระเป๋าเข็มด้ายที่มาดามฉีซินเย็บด้วยมือให้สี จิ้นผิงนั้นอยู่กับเขามาโดยตลอด ตัวหนังสือ“ขวัญใจของแม่” ที่ปักไว้บนกระเป๋าเข็มด้ายเป็นความผูกพันระหว่างแม่ลูก และเป็นการสนับสนุนจากมาดามฉีซินต่อการอุทิศตนของลูกที่มีต่อประเทศ

มาดามฉีซินที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาครอบครัวได้ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสี จิ้นผิง เธอมักจะเขียนจดหมายไปถึงสี จิ้นผิงที่ทำงานในต่างถิ่นและดำรงตำแหน่งผู้นำ ตักเตือนและกำชับให้เขาต้องปฏิบัติตัวอย่างเข้มงวด ซื่อสัตย์สุจริตและรักษาวินัยของตนเองเป็นแบบอย่างของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ในการบริหารประเทศ

ตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีสหายสี จิ้นผิงเป็นแกนนำได้ยกระดับการบริหารพรรคฯ ให้เข้มงวดอย่างรอบด้านในประวัติศาสตร์ กาสร้างสรรค์วิถีทางของพรรคฯ ให้ซื่อสัตย์สุจริตและการต่อสู้กับการทุจริตประสบผลสำเร็จมากในประวัติศาสตร์การดำเนินงานอย่างโปร่งใส ทำงานอย่างสะอาด เป็นเจ้าหน้าที่ที่สุจริตเป็นคำมั่นสัญญาระหว่างสี จิ้นผิงกับคุณแม่

เมื่อเทศกาลตรุษจีนปี 2001 มาดามฉีซินทักทายและกำชับให้สี จิ้นผิงที่ทำงานในต่างถิ่นผ่านโทรศัพท์ เธอพูดกับลูกว่าขอเพียงคุณทำงานให้ดีถือความกตัญญูต่อพ่อแม่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด นี่ก็เป็นความรับผิดชอบต่อครอบครัว และก็เป็นความรับผิดชอบต่อตัวคุณเอง

เมื่อแบกรับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจอย่างหนักจากประชาชน สี จิ้นผิงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร เป็นทั้งผู้นำทาง เป็นผู้ต่อสู้ การถือประชาชนอยู่สูงสุด การรักษาเจตนารมณ์ของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนรายหนึ่งที่ยินยอมเสียสละตัวเองและอุทิศตนอย่างจริงใจเป็นเป็นค่ำมั่นสัญญาระหว่างสี จิ้นผิงกับแม่ของเขา