ค่ำวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ตามคำเชิญของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดระดับผู้นำว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลจากกรุงปักกิ่ง พร้อมกล่าวสุนทรพจน์สำคัญในหัวข้อ “ร่วมสร้างสรรค์ประชาคมแห่งชีวิตระหว่างมนุษย์-ธรรมชาติ”
นายสี จิ้นผิงชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนำมาซึ่งความท้าทายอันหนักหน่วงต่อการอยู่อาศัยและการพัฒนาของมนุษยชาติ ประชาคมโลกควรร่วมมือกันสร้างสรรค์ประชาคมแห่งชีวิตระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ โดยยืนหยัดใน 6 ด้าน ได้แก่ ยืนหยัดการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ยืนหยัดการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยืนหยัดการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ยืนหยัดถือประชาชนเป็นที่ตั้ง ยืนหยัดพหุภาคีนิยม และยืนหยัดหลักการร่วมรับผิดชอบตามสภาพที่แตกต่างกัน
นายสี จิ้นผิงเน้นว่า จีนได้บรรจุแนวคิดด้านวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์วัฒนธรรมในระบบนิเวศรวมอยู่ในแผนพัฒนาโดยรวมของสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน ยืนหยัดหนทางการพัฒนาที่เน้นระบบนิเวศต้องมาก่อน และเป็นแบบคาร์บอนต่ำ โดยกล่าวว่า “จีนจะพยายามบรรลุซึ่งการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุดภายใน ค.ศ. 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายใน ค.ศ. 2060 จีนให้คำมั่นสัญญาว่า เวลาที่จีนใช้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน จะสั้นกว่าของประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งจีนจะทุ่มเทความพยายามอย่างสุดกำลัง”
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนกำลังวางแผนการปล่อยคาร์บอนแตะเพดานสูงสุด เพื่อการดำเนินงานอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง สนับสนุนให้พื้นที่ที่มีความพร้อมและวิสาหกิจสำคัญสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุดก่อน จีนจะควบคุมโครงการผลิตไฟฟ้าพลังถ่านหินอย่างเข้มงวด ควบคุมการเติบโตด้านการใช้ถ่านหินในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ปี 2021-2025) และจะค่อยๆลดการปล่อยคาร์บอนในแผนพัฒนาฯฉบับที่ 15
นายสี จิ้นผิงชี้ว่า จีนเป็นผู้มีส่วนร่วม ส่วนช่วยและส่วนชักนำการสร้างคุณูปการด้านอารยธรรมระบบนิเวศโลก จีนจะปฏิบัติตามหลักพหุภาคีนิยมอย่างแน่วแน่ ผลักดันการสร้างระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมโลกที่เที่ยงธรรม สมเหตุสมผล ร่วมมือกันและได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ ประเทศจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมของภาคีแห่ง “อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ” ครั้งที่ 15 ในเดือนตุลาคมปีนี้ ร่วมมือกับทุกฝ่ายขับเคลื่อนการบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพให้ก้าวสู่ขั้นใหม่ จีนจะดำเนินความร่วมมือแบบใต้-ใต้ที่เป็นรูปธรรมอันหลากหลาย ช่วยเหลือบรรดาประเทศกำลังพัฒนายกระดับความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จีนเน้นความร่วมมือด้านอารยธรรมนิเวศวิทยาเป็นเนื้อหาส่วนสำคัญ ในการร่วมสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพื่อนำความผาสุกที่ยั่งยืนสู่ประชาชนประเทศที่ร่วมกันสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
นายสี จิ้นผิงชี้ว่า ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อมนุษย์ เป็นความท้าทายที่จะส่งผลกระทบจริง มีความยากลำบากและเป็นระยะยาว พร้อมกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า หากพวกเราร่วมแรงร่วมใจกัน มนุษย์ย่อมจะสามารถรับมือกับความท้าทายจากสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และสร้างโลกที่สะอาดสวยงามให้กับลูกหลานรุ่นต่อๆไป”
ผู้นำประเทศต่างๆที่เข้าร่วมประชุมต่างเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายหนักหน่วงที่ประชาคมโลกต้องเผชิญร่วมกัน จึงต้องการความร่วมมือจากทั่วโลก ควรดำเนินการปฏิบัติอย่างเร่งด่วน ลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลงต่อไป ส่งเสริมนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทุ่มเทกำลังพัฒนาพลังงานสะอาด สร้างโอกาสการทำงานและการพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น บรรลุซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มนุษย์ทั้งมวลอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน ต้องสนับสนุนการประชุมภาคีแห่ง “อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ” ครั้งที่ 15 ให้บรรลุซึ่งความสำเร็จด้วยดี ให้ความสำคัญต่อประเทศและกลุ่มคนด้อยโอกาส ประเทศที่พัฒนาแล้วควรเสนอความช่วยเหลือด้านเงินทุนและเทคโนโลยีมากขึ้นต่อประเทศกำลังพัฒนา เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ