คืนวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายวลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย พูดคุยทางโทรศัพท์
นายสี จิ้นผิง กล่าวชี้ว่า ค.ศ. 2020 เป็นปีที่ไม่ธรรมดาสำหรับจีนและรัสเซีย ตลอดจนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 กำลังเป็นความท้าทายอันใหญ่หลวงต่อความปลอดภัยในชีวิตของมนุษย์ ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อเศรษฐกิจโลกด้วย ทั่วโลกกำลังอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน ในยามวิกฤตจีน-รัสเซียยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมรับมือความยากลำบาก ยังคงให้การสนับสนุนอันแข็งแกร่งต่อกันในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของแต่ละฝ่าย สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจกันระดับสูงระหว่างสองฝ่าย ปีนี้ จีน-รัสเซียต่างแสดงบทบาทสำคัญในการดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อต้านโรคระบาด ร่วมขับเคลื่อนโครงการสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้เชื่อมโยงกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย ร่วมเฉลิมฉลองการครบรอบ 75 ปี การก่อตั้งสหประชาชาติ ร่วมแสดงบทบาทการเป็นผู้นำในกรอบพหุภาคีต่าง ๆ อาทิ กลุ่มประเทศ G20 องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และกลุ่มประเทศบริคส์ เป็นต้น กลายเป็นกำลังสำคัญในการพิทักษ์ความยุติธรรมระหว่างประเทศและการปฏิบัติตามลัทธิพหุภาคี ทั้งนี้ จีนยินดีที่จะร่วมมือกับรัสเซียยืนหยัดพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-รัสเซียท่ามกลางยุคสมัยใหม่เพื่อบรรลุการพัฒนาและการฟื้นตัวของประเทศ ตลอดจนสร้างคุณประโยชน์มากยิ่งขึ้นต่อการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่และประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
ด้านนายวลาดีเมียร์ ปูติน กล่าวว่า ปีนี้แม้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โรคระบาดแต่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีนยังคงพัฒนาอย่างมั่นคง สองฝ่ายต่างสนับสนุนความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น การต้านโรคระบาด เศรษฐกิจการค้า พลังงาน และเทคโนโลยี เป็นต้น ทั้งนี้ ในปีหน้าสองฝ่ายจะร่วมเฉลิมฉลอง 20 ปี แห่งการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือฉันเพื่อนบ้านระหว่างรัสเซีย-จีน ทั้งนี้ รัสเซียจะยังคงยืนหยัดการขับเคลื่อนการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างรัสเซีย-จีนให้มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ข้าพเจ้ายังยินดีที่จะร่วมมือกับท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ร่วมแสดงบทบาทการเป็นผู้นำเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศบรรลุการพัฒนาใหม่ในปีหน้าที่จะมาถึง ทั้งยังคงความร่วมมือและประสานงานในกิจการระหว่างประเทศอย่างแน่นแฟ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิทักษ์ความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ของทั่วโลก