เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงานเฉพาะกิจของเครื่อข่ายประชาสัมพันธ์โครงการเข้าสู่ยูนนานเยี่ยมชมสังคมอยู่ดีมีสุข ได้เดินทางออกจากอำเภอหงเหอ แล้วเดินทางต่อไปตามถนนคดเคี้ยวบนภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหมอกเป็นระยะทาง 37 กิโลเมตรจนมาถึงตำบลเป่าฮวา อันเป็นที่ตั้งของนาขั้นบันได้ฮานีใหญ่ที่สุดในประเทศจีน-นาขั้นบันไดซาหม่าป้านับหมื่น ๆ ไร่ตั้งอยู่ที่นี่
ว่ากันว่าทุ่งนาขั้นบันไดในฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นสีเหลืองทองงดงามมาก ทั้งนาในแนวตั้งและแนวนอนเรียงรายตัดกันอย่างสวยงาม แต่พระเจ้ากลับไม่เข้าข้างเรา ฝนตกในฤดูใบไม้ร่วงอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดหมอกหนาปกคลุมไปทั่วทุ่งนาขั้นบันได
อย่างไรก็ตามในตำบลเป่าฮวายังคงมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มช่วยละลายความหนาวเย็นและความโศกเศร้าของฤดูใบไม้ร่วงให้หมดไป ท่่ามกลางสายหมอกที่หนาขึ้น รูปลักษณ์แห่งความสุขของนาขั้นบันได “ซาหม่า” ปรากฎขึ้นอย่างเด่นชัดบนใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหล่านี้
หลิว อวี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็น “ซาหม่า” เจริญเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
คุณหลิวอวี่ รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอำเภอหงเหออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมากเมื่อกล่าวถึง "โรงแรมกลางภูเขา" สองแห่งที่กำลังก่อสร้าง
“ขึ้นรถแล้วนอน ลงจากรถก็ถ่ายรูป รูปแบบการท่องเที่ยวแบบเดิมกำลังจะถูกพังทลายลง คนในพื้นที่จำนวนมากได้เข้าร่วมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนระดับไอเอนด์ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้”
คุณหลิว อวี่แนะนำว่า “ซาหม่า” เป็นทัศนียภาพนาขั้นบันไดที่อยู่ใกล้เมืองคุนหมิงมากที่สุด ก่อนการเปิดใช้ทางด่วนคุนหมิง-บ่อหาน อำเภอหงเหอของเรานั้นเรียกได้ว่าตั้งอยู่บริเวณ “ก้นกระเป๋า” ของเส้นทางท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้แก่ เหอโคว่ ผิงเปียน เจี้ยนสุ่ย และเมิงจึ แต่หลังจากสร้างทางด่วนแล้ว อำเภอหงเหอกลับกลายเป็น “ปากกระเป๋า” ของวงแหวน และยังได้สร้างการไหลเวียนของผู้คนและเงินุทน รวมถึง “กระแสแห่งโอกาส” เข้ามา
ในปีนี้ ค่ายพักแรมคังเติงซือโถวจ้ายและหมู่บ้านชนชาติฮานีดั้งเดิมซูหงจะเปิดประตูต้อนรับแขกในฐานะ “โรงแรมกลางภูเขา” ที่มีรูปแบบการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ วัฒนธรรมการเกษตร สัมผัสประสบการณ์การทำนา และการเดินเพื่อสุขภาพ “เมื่อเปิดหน้าต่างก็จะเห็นภาพอันงดงามของชาวนา วัวควาย คันไถ ช่างเป็นบทกวีและผืนดินอันห่างไกลที่นักท่องเที่ยวต่างโหยหาไม่ใช่หรือ” คุณหลิวอวี่กล่าว ชาวบ้านรอบ ๆ นาขั้นบันไดจากเมื่อก่อนที่เคยอาศัยฟ้าฝนในการทำมาหากิน ตอนนี้มีโอกาสเข้าร่วมในธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่น ๆ หาเลี้ยงครอบครัวของตนเองได้
ในปีนี้ช่วง “เทศกาลวันชาติ” ซึ่งเป็นสัปดาห์ทองนั้น จุดชมวิวนาขั้นบันได “ซาหม่า” นับหมื่นไร่ก็จะได้ต้อนรับการเปลี่ยนโฉมใหม่ ทั้งพื้นที่ชมวิวแบบเปิดไปจนถึงพื้นที่ชมวิวแบบปิด สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการจัดการจุดชมวิวที่ได้มาตรฐาน “เราสนับสนุนให้ชาวบ้านมีปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ บนเส้นทางเดินป่าเพื่อไปสู่นาขั้นบันไดซาหม่าระยะทาง 13 กิโลเมตรที่สร้างขึ้นใหม่ คุณอาจจะได้พบกับชาวบ้านที่กำลังร้องเพลงฮานีอย่างไม่คาดฝัน บางทีอาจจะเรียกร้องความสนใจให้คุณต้องเหยียบย่ำเข้านาข้าวเพื่อจับปลาตัวเล็ก ๆ” คุณหลิว อวี่ที่กำลังยุ่งอยู่กับการต้อนรับแขกในเทศกาลวันชาติได้อธิบายการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่หลากหลายของ “นาขั้นบันไดซาหม่า” อย่างรวดเร็ว
คุณเฉิน จื่อกวง ยิ้มกว้างเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ
คุณเฉิน จื่อกวง เจ้าของโฮมสเตย์ยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงเมื่อก่อนที่ต้องออกไปทำงานข้างนอก “นาขั้นบันไดสำหรับพวกเราแล้วมันหมายถึงความอยู่รอดและยังเป็นรากฐานของคนรุ่นต่อไป ผมจะคอยปกป้องมันต่อไป รอให้โควิดจบลง พวกเราก็จะได้ต้อนรับแขกจำนวนมากขึ้น”
เมื่อ 20 ปีที่แล้ว คุณเฉิน จื่อกวง ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 18 ปีวิ่งไล่ตามพระอาทิตย์ตกด้วยเท้าเปล่าบนสันเขาในหมู่บ้านหลงหม่าตำบลเป่าฮวา 20 ปีต่อมา คุณเฉินจื่อกวงชื่นชมพระอาทิตย์ตกจากลานชมวิวในโฮมสเตย์ของตนเองซึ่งอยู่ใกล้กับนาขั้นบันได
ก่อนหน้านี้คุณเฉินจื่อกวงได้เดินทางออกจากบ้านเกิดเพื่อไปหางานทำที่อื่น การทำงานนอกบ้านสร้างรายได้มากว่าการทำนาที่บ้าน แต่เมื่อใดก็ตามที่เขานึกถึงนาข้าวที่เขาเคยปลูกมานานหลายปีก็อดที่จะรู้สึกเศร้าและหดหู่ ความคิดถึงบ้านก็จะคอยหลอกหลอนหัวใจเขา ด้วยการพัฒนาการท่องเที่ยวในท้องถิ่น การท่องเที่ยวนาขั้นบันไดกำลังค่อย ๆ เกิดขึ้น ในปี 2559 คุณเฉินจื่อกวงมองเห็นโอกาสที่จะกลับไปที่บ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ หลังจากได้เยี่ยมชมและศึกษาโฮมสเตย์สองสามแห่ง เขาก็ได้เริ่มสร้างโฮมสเตย์ใกล้ ๆ กับนาขั้นบันไดโดยตั้งชื่อว่า “เถียนผ้านเหรินเจีย” เขายังกลายเป็นคนกลุ่มแรกซึ่งเป็นผู้นำและบุกเบิกการทำธุรกิจท่องเที่ยวในหมู่บ้านหลงหม่า
ในช่วงฤดูท่องเที่ยวก่อนเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดฯ ห้องพักจะถูกจองเต็ม ในปี 2561 คุณเฉิน จื่อกวงได้เพิ่มห้องพักจากเดิม 12 ห้องเป็น 17 ห้อง “ตั้งแต่เปิดกิจการมาเราได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก” คุณเฉิน จื่อกวง กล่าวด้วยรอยยิ้ม นักท่องเที่ยวจากเสฉวน กวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ... ชื่นชอบที่จะไปชมวิวบริเวณลานชมวิวของโฮมสเตย์ “เถียนผ้านเหรินเจีย” และบันทึกภาพทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดลงในกล้องถ่ายภาพ เพื่อเก็บความทรงจำที่สวยงามของหงเหอกลับไปสู่บ้านของพวกเขา
เขาจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับนักท่องเที่ยว เช่น เก็บไข่เป็ดซึ่งเพิ่งออกไข่มาสด ๆ ร้อน ๆ หรือพับขากางเกงเพื่อไปตกปลาในนาข้าว คุณเฉิน จื่อกวง ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของโฮมสเตย์เท่านั้น แต่เขายังทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อครัว ไกด์ และคนขับรถ ... สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณเฉินจื่อกวงยังเป็นเพื่อนที่คอยพูดคุยร่วมดื่มน้ำชากับนักท่องเที่ยวได้ หลายคนเป็นลูกค้าขาประจำที่เคยมาที่นี่มากกว่า 3 ครั้ง พวกเขายังได้ให้คำแนะนำมากมายซึ่งมีคุณค่าในการปรับปรุงโฮมสเตย์ คุณดูสิกระจกชั้นบนตรงนั้นแขกชาวซานตงเป็นคนแนะนำให้ผมติดตั้ง สมัยก่อนห้องนั่งเล่นชั้น 1 จะเย็นและมืดมาก แต่หลังจากติดกระจกตอนนี้อากาศอบอุ่นและมีแสงสว่างสาดส่อง”
ปัจจุบัน คุณเฉิน จื่อกวง มีรายได้จากการทำโฮมสเตย์ประมาณ 80,000 หยวนต่อปี เขาหวังว่าจะได้เห็นนักท่องเที่ยวมีความสุขทางใจจากการได้มาพักผ่อนที่โฮมสเตย์ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์อย่างเต็มอิ่มในการมาเที่ยวนาขั้นบันได
คุณหลิว เหวินจวน ยิ้มเมื่อได้ยินเสียงอ่านหนังสือจากห้องสมุดบ้านไร่
คุณหลิว เหวินจวน สมาชิกของทีมบรรเทาความยากจนยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อเห็นว่าหนังสือที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ได้รับความชื่นชอบจากเด็ก ๆ ในห้องสมุดบ้านไร่ "เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันที่อยากให้เด็ก ๆ ในท้องถิ่นได้มีหนังสือดี ๆ อ่าน"
คุณหลิว เหวินจวน เป็นสมาชิกของคณะกรรมการทีมบรรเทาความยากจน สังกัดสำนักงานประชาสัมพันธ์คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลยูนนาน ประจำสาขาหมู่บ้านกาส่า ตำบลเป่าฮวา เธอเพิ่งมาทำงานที่นี่ในเดือนมิถุนายน พวกเรามักจะเห็นเด็ก ๆ เข้าไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดบ้านไร่และเล่นกับเธอ
หมู่บ้านกาส่า อยู่ใกล้กับนาขั้นบันไดซาหม่่า ในปี 2562 ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านหลุดพ้นจากความยากจน และหมู่บ้านแห่งนี้ถูกลบออกจากรายชื่อ “หมู่บ้านยากจน” ปัจจุบัน การพัฒนาอีคอมเมิร์ซในชนบท การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และการสร้างหมู่บ้านที่สวยงามได้กลายเป็นจุดรวมของความสำเร็จในการบรรเทาความยากจนและเป็นทิศทางใหม่ในการทำงานด้านการฟื้นฟูชนบทได้อย่างดี
"การสร้างห้องสมุดบ้านไร่ไม่ใช่เรื่องยากแต่สิ่งที่เราควรคิดคือทำจะอย่างไรให้ห้องสมุดแห่งนี้มีประโยชน์และใช้งานได้จริง" หลังจากที่คุณหลิว เหวินจวนมาถึงหมู่บ้านกาส่า เธอได้พยายามใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อดึงดูดเด็ก ๆ ให้มาที่ "ห้องสมุดบ้านไร่" และให้เด็ก ๆ ค่อย ๆ พัฒนานิสัยรักการอ่าน เธอมักจะชวนให้เด็ก ๆ มานั่งในห้องสมุดและจะคอยสังเกตว่าเด็ก ๆ ชอบอ่านหนังสือประเภทไหน และจะซื้อหนังสือที่เหมาะกับเด็กด้วยค่าใช้จ่ายของเธอเอง “ห้องสมุดบ้านไร่” เป็นสถานที่ที่ให้อาหารทางใจสำหรับคนในชนบทโดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้ง ที่นี่เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับโลกมหัศจรรย์ เราสนับสนุนให้พวกเขาตั้งใจเรียนและใช้ความรู้เพื่อบรรยายชีวิตที่สวยงาม" คุณหลิวเหวินหยวนกล่าวว่า ฉันอยากใช้วิธี “จูงมือเล็ก ๆ” ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้แนวคิดพฤติกรรมและการปฏิบัติที่ดีก่อน แล้วจึงส่งผลต่อไปยังครอบครัวของพวกเขาท้ายที่สุดแล้วฉันอยากให้คนในท้องถิ่นไม่เพียงแต่จะร่ำรวยเงินทองเท่านั้น แต่ต้องร่ำรวยความรู้ด้วย
คุณอู๋ ซิวเหลียน รอคอยที่จะเห็นเป็ดตัวอ้วนด้วยรอยยิ้ม
“พวกเราหลุดพ้นจากความยากจนแล้ว ตอนนี้ฉันพยายามที่จะใช้ชีวิตแบบอยู่ดีมีสุข” เมื่อพูดถึงชีวิตในปัจจุบันคุณอู๋ ซิวเหลียน ก็เผยรอยยิ้มออกมา
บ้านหลังเดิมของเธอจะมีน้ำรั่วเมื่อฝนตก ปัจจุบันบ้านหลังใหม่ไม่เพียงแต่จะกว้างขวางและสว่างไสวเท่านั้น แต่ยังมีห้องครัวและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน บ้านไม่ใช่เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้นแต่ยังเป็นสถานที่ที่อบอุ่นด้วย
“ครอบครัวของเราเพิ่งได้รับลูกเป็ด 10 ตัวและลูกปลาต้าวฮวา (ปลาที่เลี้ยงในทุ่งนา) หลายกิโลที่ทางหมู่บ้านมอบให้ ความสุขเป็นผลมาจากการทำงานหนัก ตราบใดที่คุณทำงานหนักคุณก็สามารถสร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้"
คุณอู๋ หงสื้อ ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันก็เห็นด้วยอย่างมากกับความคิดนี้ คุณอู๋ หงสื้อ เป็นสมาชิกของสหกรณ์เลี้ยงเป็ดในหมู่บ้าน ปัจจุบันเขาเลี้ยงเป็นจำนวน 30 ตัว จากการคำนวณรายได้จากการขายไข่เป็ดเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ประมาณ 5,000 หยวน และทางสหกรณ์จะเป็นผู้รับผิดชอบในการขายด้วย พืชผักต่าง ๆ เราก็ปลูกเองกินเอง และหากเหลือกินยังสามารถนำไปขายได้อีกด้วย ตอนนี้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนมากมาย เขาวางแผนที่จะขยายขนาดการเลี้ยงสัตว์หรือใช้ประโยชน์จากการพัฒนาการท่องเที่ยวในหมู่บ้านเพื่อต่อสู้อีกครั้งและยกระดับชีวิตของครอบครัวไปอีกขั้น
ในช่วงฤดูฝนของนาขั้นบันไดซาหม่า น้ำฝนช่วยชะล้างทำความสะอาดคำขวัญบนกำแพงอิฐทำให้เห็นข้อความ “อนุรักษ์ความงดงามและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข” ได้เด่นชัดยิ่งขึ้น และนี่คือภาพแห่งสังคมอยู่ดีมีสุขของผู้คนในพื้นที่นาขั้นบันไดไม่ใช่หรือ
หวัง ฮวาน หลี่ จา หลี่ เฮิงเฉียง ผู้สื่อข่าว / หลี่ เหวินจวิน บทความและรูปภาพ