หุบเขาหงเหอเป็นสีแดง...สีดำ...หรือสีเขียว

วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงานเฉพาะกิจของเครื่อข่ายประชาสัมพันธ์โครงการเข้าสู่ยูนนานเยี่ยมชมสังคมอยู่ดีมีสุขได้เดินทางมาถึงศูนย์วิจัยภูเขาแห่งอนาคต (Mountain Futures Research Centre) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางออกของทางด่วนหุบเขาหงเหอช่วงระยะหยวนม่าน แคว้นปกครองตนเองชนชาติฮานีและหยีหงเหอ โดยศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นที่รวมของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนและต่างชาติซึ่งมีแรงบันดาลใจและมีแนวความคิดหลายท่าน ถนนทางหลวงบริเวณนี้จะปลูกต้นถั่วสไตโล (Stylosanthes guianensis) ซึ่งนำพันธุ์มาจากอเมริกาใต้ และต้นเชียร์บัตเตอร์แอฟริกันสีน้ำตาลเหลืองที่อยู่ระหว่างการเลี้ยงดู ดอกไม้สีเหลืองเล็ก ๆ เหล่านี้นอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับภูมิทัศน์ท้องถนนแล้วยังสามารถป้องกันความลาดชันได้อีกด้วย ในพื้นที่หุบเขาสีแดงแห่งนี้ เหล่านักวิทยาศาสตร์ต้องการที่จะนำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาเพื่อบรรเทาความยากจนให้กับคนในท้องถิ่น รวมถึงการใช้ “เทคโนโลยีสีดำ” มาใช้ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างยั่งยืน

เจ้าหน้าที่ของพื้นที่สาธิตภายในศูนย์วิจัยภูเขาแห่งอนาคตแนะนำว่า หลังจากที่ได้ทำการคลุมตะข่ายและป้องกันความลาดชันแล้ว จะทำการพ่นสารเกาะยึดลงไปในดิน จากการทำงานของเนื้อเยื้อของต้นกล้าและจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ รวมถึงจุลชีววิทยา เมล็ดของต้นไม้ พุ่มไม้ และสมุนไพรในดินจะดูดซับไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในอากาศเพื่อสร้างสารอาหารและในที่สุดก็จะได้ผลงานความสำเร็จของ "ดอกไม้สีเหลืองและใบสีเขียวตลอดทั้งสี่ฤดูกาล" เมื่อเปรียบเทียบกับการป้องกันความลาดชันด้วยการก่ออิฐแบบเดิมแล้ว วิธีการใหม่นี้ไม่เพียงแต่จะลดต้นทุนได้มากเท่านั้น แต่ยังทำให้ดินแน่นลดการเสี่ยงต่อการถล่มของดินและยังสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามให้กับทางหลวงอีกด้วย

“ศูนย์วิจัยภูเขาแห่งอนาคต ก่อตั้งขึ้นโดยศูนย์วิจัยวนเกษตรโลกและสถาบันวิทยาศาสตร์จีนในปี 2547 เป็นเวทีแห่งความร่วมมือระหว่างประเทศที่บริหารงานร่วมกันโดยสถาบันพฤกษศาสตร์คุนหมิง สถาบันวิทยาศาสตร์จีน และศูนย์วิจัยวนเกษตรโลกสำนักงานประเทศจีน” คุณซวี่ เจี้ยนชู หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ศูนย์วิจัยวนเกษตรโลกและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภูเขาแห่งอนาคตแนะนำว่า ในอนาคตพื้นที่ที่เป็นภูเขาจะมุ่งเน้นไปที่การเกษตรหมุนเวียน การเกษตรเชิงนิเวศ และการเกษตรลักษณะเฉพาะ ซึ่งพวกเราจะคอยติดตามผลงานด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดจากนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน โดยจะนำผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้มาส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมในท้องถิ่น เพื่อให้คนในท้องถิ่นสามารถดำรงชีวิตได้อย่างอยู่ดีมีสุขในที่สุด

คุณซวี่เจี้ยนชูเชื่อว่า พื้นที่ภูเขาเป็นความหวังของมนุษยชาติและแหล่งกำเนิดของความเจริญในระบบนิเวศ ดังนั้น เพื่อสร้างความสวยงามและความเจริญให้กับพื้นที่ภูเขา พวกเขาได้สร้างฐานข้อมูลทรัพยากรด้านการเพาะปลูกพืชคุณภาพสูงและมีชื่อเสียงในท้องถิ่น สวนสาธิตการเกษตรป่าไม้และปศุสัตว์แบบผสมผสาน สวนอุตสาหกรรมวัฏจักรชีวภาพการเกษตรและระบบตรวจสอบระบบนิเวศเกษตรของภูมิทัศน์ป่าไม้และทุ่งหญ้าอันจะกลายเป็นวัฏจักรอุตสาหกรรมการเกษตรเชิงนิเวศวิทยาในพื้นที่ภูเขา ทั้งนี้ เพื่อจัดหาแนวทางแก้ไขด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี อุตสาหกรรมนิเวศวิทยา และระบบนิเวศสังคมให้กับทุกฝ่าย ในกระบวนการเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสวนสาธิตการเกษตรสมัยใหม่ ฐานเพาะต้นกล้าหรือการค้นหาแหล่งปลูกพืชต่าง ๆ เช่น มะนาวนิ้วมือออสเตรเลีย ต้นบาวบับ อะโวคาโด และเสาวรส หรือการสร้างฐานเพาะพันธุ์แมลงวันลายเพื่อค้นหาวิธีการบำบัดขยะในครัวเรือนที่มีจำนวนมหาศาลอันเป็นหนทางสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมการบำบัดของเสียจากครัวเรือน ในอนาคตพื้นที่ภูเขาจะคำนึงถึง "วัฏจักรหรือการหมุนเวียน" และ "ความยั่งยืน" เป็นคำหลักในการพัฒนา

แนวความคิดนี้สร้างแรงดึงดูดให้มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก

คุณหวัง เจิ้งหง นักศึกษาปริญญาเอกสาขานิเวศวิทยาดินเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น เขาได้เดินทางมาที่นี้ในปี 2560 เขากล่าวว่า พวกเขามีสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจ ซึ่งเรียกว่าเครื่องวัดปริมาณน้ำของลำต้น และได้วัดปริมาณน้ำจากลำต้นของต้นมะม่วงในแปลงตัวอย่าง ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำว่าต้นไม้ชนิดนี้ต้องการน้ำมากน้อยเพียงใดจึงจะสามารถรักษาผลผลิตไว้ให้ได้ให้มากที่สุด สำหรับพื้นที่หุบเขาที่มีความร้อนและขาดแคลนแหล่งน้ำแล้วจำเป็นอย่างมากที่จะต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานและลดการปล่อยก๊าซจากด้านบนของดิน การเปลี่ยนแปลงของคาร์บอนในพื้นดินส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศอย่างมีนัยสำคัญ “วัฏจักร” ที่สนับสนุนโดยสถาบันวิจัยภูเขาแห่งอนาคตนั้นไม่สามารถแยกออกจากวัฏจักรขนาดเล็กของระบบนิเวศในทุกองค์ประกอบ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในภาคสนามนั้นยากมาก แต่มันมีคุณค่าในระยะยาวสำหรับที่ดินผืนนี้และผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่"

“การสำรวจวิธีที่จะบรรลุการพัฒนาแบบวัฏจักรในสภาพแวดล้อมบนพื้นที่ภูเขาเป็นสิ่งที่เราแสวงหามาโดยตลอด บนหนทางซึ่งนำไปสู่สังคมอยู่ดีมีสุข เราหวังว่าจะสามารถนำเสนอวิิธีการและแนวทางการแก้ปัญหาที่หลากหลายให้กับหุบเขาหงเหอ” คุณซวี่เจี้ยนชูกล่าวว่า การใช้กลยุทธ์ฟื้นฟูชนบทเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 19 เป็นชัยชนะที่ชี้ขาดในการสร้างสังคมอยู่ดีมีสุขถ้วนทั่ว เป็นภารกิจครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างครอบคลุม และกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูชนบทอยู่ที่วัฏจักรการหมุนเวียนขององค์ประกอบทรัพยากรต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นการปฏิบัติตามแนวความคิดที่ว่า "น้ำใสและภูเขาสีเขียวคือภูเขาเงินภูเขาทอง" ในพื้นที่ภูเขา

ดูเหมือนว่าหุบเขาหงเหอไม่ได้มีเพียงแต่มีผืนดินสีแดง แต่ยังมี "เทคโนโลยีสีดำ" ที่สุดยอด รวมถึงอนาคตที่สดใสและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

หลี่ เฮิงเฉียง ผู้สื่อข่าว / หวัง ฮวาน บทความ / หลี่ จา ภาพประกอบ