นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีจีน ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการสร้างสรรค์อารยธรรมนิเวศวิทยามาโดยตลอด เขาเคยกล่าวเน้นหลายครั้งว่า “การสร้างสรรค์อารยธรรมนิเวศวิทยานั้น เป็นแผนการนับพันปีที่เกี่ยวพันการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประชาชาติจีน” “ต้องเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศมากยิ่งขึ้นดั่งการปกป้องรักษาดวงตา ต้องปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศดั่งการปฏิบัติต่อชีวิต ”
ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงภายในปี ค.ศ. 2020 นั้น เป็นทั้งช่วงเวลาที่จีนบรรลุผลสำเร็จในการสร้างสังคมมีกินมีใช้อย่างรอบด้าน และช่วงเวลาสำคัญแห่งการสร้างสรรค์อารยธรรมนิเวศวิทยาของจีน ปธน.สี จิ้นผิงใส่ใจยิ่งต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ ได้ลงพื้นที่ศึกษาตรวจงานบ่อยครั้ง ทั้งภูเขา ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเลสาบ และทุ่งนา ทุ่งหญ้า วางยุทธศาสตร์และแผนงานอย่างบูรณาการ ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์อารยธรรมนิเวศวิทยาของจีนให้ได้รับผลสำเร็จที่สำคัญ
“สังคมมีกินมีใช้มีความรอบด้านหรือไม่ คุณภาพสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเป็นอีกหนึ่งด้านที่มีความสำคัญยิ่ง”
ในอดีตภูเขาฉีเหลียนซาน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เคยประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศค่อนข้างรุนแรง ปธน.สี จิ้นผิงเคยออกคำสั่งหลายครั้งให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงอย่างเด็ดขาด
เมื่อบ่ายวันที่ 20 สิงหาคม ปี 2019 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังทุ่งหญ้าต้าหม่าหยิง ทางทิศเหนือของภูเขาฉีเหลียนซาน เมืองจางเย่อ มณฑลกันซู่ ตรวจสภาพการฟื้นฟูและอนุรักษ์ระบบนิเวศบริเวณเทือกเขาฉีเหลียนซาน รวมถึงการปฏิรูปและพัฒนาทุ่งหญ้าเลี้ยงม้าในที่นั่น
นายสี จิ้นผิงยืนอยู่ในทุ่งหญ้า มองไกลไปยังภูเขาฉีเหลียนซาน รับฟังการรายงานจากสหายผู้รับผิดชอบสำคัญของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกันซู่ เมื่อทราบว่าภาระหน้าที่แก้ไขปรับปรุงที่เสนอโดยส่วนกลาง ได้รับการปฏิบัติตามเสร็จเรียบร้อยในขั้นพื้นฐานแล้ว ปธน.สี จิ้นผิงได้แสดงความชื่นชม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า “เมื่อเราพัฒนามาถึงขั้นนี้แล้ว จะทำงานแบบเช้าชามเย็นชามไม่ได้ ต้องยืนหยัดแก้ไขอุปสรรคและความยากลำบากต่อไป เพื่อบรรลุการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูง น้ำใสภูเขาเขียวก็จะสามารถกลายเป็นภูเขาเงินภูเขาทองได้”
ทุ่งหญ้าต้าหม่าหยิง ณ วันนี้มีอัตราพื้นที่สีเขียวปกคลุมมากขึ้น ระดับความสูงของพรรณพืชและปริมาณการผลิตหญ้าต่างเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีสัตว์ป่าที่พบเห็นได้ยากในอดีตปรากฏให้เห็นบ่อยครั้งมากขึ้นด้วย
“สังคมมีกินมีใช้มีความรอบด้านหรือไม่ คุณภาพสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศเป็นอีกหนึ่งด้านที่มีความสำคัญยิ่ง” นายสี จิ้นผิงเคยกล่าวเน้นเช่นนี้หลายครั้ง
คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นแกนกลาง ยึดถือหลักการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พื้นฐานแห่งการยืนหยัดและพัฒนาสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนในยุคใหม่ และยึดถือการสร้างสรรค์จีนให้สวยงามเป็นเป้าหมายสำคัญแห่งการสร้างสรรค์ประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยอย่างทั่วด้านของจีน ปธน.สี จิ้นผิงได้ทุ่มเททั้งกำลังใจและกำลังกายอย่างมากในด้านการสร้างสรรค์ระบบนิเวศ จัดวางและขับเคลื่อนแผนงานด้วยตนเอง รวมทั้งติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดจนถึงที่สุด
จากภูเขาเขียวถึงน้ำใส จากทุ่งหญ้าถึงผืนทราย จากป่าไม้ถึงทะเล ปธน.สี จิ้นผิงใส่ใจเรื่องการอนุรักษ์ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมาโดยตลอด
ป่าโกงกางที่เจริญงอกงามผืนใหญ่ นกกระยางที่โผบินไปมาเป็นฝูง ๆ นี่คือภาพที่นักข่าวได้พบเห็นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เขตอนุรักษ์ป่าชายเลนจินไห่วาน เมืองเป๋ยไห่ เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางซี (กวางสี)
เมื่อค่ำวันที่ 19 เมษายน ปี 2017 นายสี จิ้นผิงเคยเดินทางมาถึงที่นี่ เพื่อตรวจดูงาน รับฟังการบรรยายสรุปและรับทราบถึงรายละเอียดการเจริญเติบโตของป่าชายเลน ตลอดจนบทบาทในการปรับปรุงระบบนิเวศทางทะเล
“เมื่อหันหน้าเข้าหาป่าชายเลนผืนใหญ่และทะเลอันเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา ท่านเลขาธิการใหญ่ยืนนิ่งและทอดสายตามองไปเป็นเวลานาน และได้กำชับให้พวกเราดำเนินการวิจัยและอนุรักษ์ป่าชายเลนให้ดีต่อไป สร้างสรรค์เขตชีวนิเวศชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตทางทะเล” นายเผิง ไจ้ชิง ปลัดอำเภอเหอผู่ เมืองเป๋ยไห่ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายทะเลของเทศบาลเมืองเป๋ยไห่และทำหน้าที่ผู้บรรยายสรุปให้กับปธน.สี จิ้นผิง ได้เล่าเหตุการณ์ประทับใจนี้ให้นักข่าวฟัง
นายหวัง หน่ายเสวีย เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองเป๋อไห่บอกนักข่าวว่า “เราจะจดจำคำกำชับของท่านเลขาธิการใหญ่ตลอดไป ปฏิบัติตามแนวคิดใหม่แห่งการพัฒนา รักษามาตรฐานขั้นต่ำสุดทางระบบนิเวศให้ได้อย่างเต็มที่ และจะพยายามสร้างผลงานโดดเด่นด้านการคุ้มครองระบบนิเวศ”
ช่วงครึ่งแรกปี 2020 อัตราคุณภาพดีเด่นของน้ำทะเลใกล้ชายฝั่งเมืองเป๋ยไห่สูงถึง 100% พร้อมไปกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของพื้นที่ชุ่มน้ำได้รับการปรับปรุงดีขึ้น มีนกอพยพจำนวนมากมายได้บินมาอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งได้เพิ่มความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ระบบนิเวศเองก็ถือเป็นเศรษฐกิจ การคุ้มครองระบบนิเวศก็คือการพัฒนากำลังการผลิต”
พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำฉางเจียง(แยงซี)ในเมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย สวยงามเสมือนสวนสาธารณะกลางเมือง เมื่อหลายปีก่อนที่นี่ยังเป็นโรงงานถลุงแร่ฟอสฟอรัสสีเหลืองและท่าเทียบเรือ ปัจจุบันได้กลายเป็นเขตทัศนียภาพสีเขียวในนิคมอุตสาหกรรมวัสดุใหม่อี๋ชางของกลุ่มบริษัทซิงฟา กินเนื้อที่กว่า 800 โหม่วหรือราว 333 ไร่
เมื่อวันที่ 26 เมษายน ปี 2018 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย นายสี จิ้นผิงเป็นประธานการประชุมเสวนาว่าด้วยการลงลึกขับเคลื่อนการพัฒนาแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีและได้กล่าวคำปราศรัยสำคัญ เพื่อจัดการประชุมครั้งนี้ให้ดี ปธน.สี จิ้นผิงได้ลงพื้นที่ตรวจงานที่เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย และเมืองเย่ว์หยาง มณฑลหูหนาน
เที่ยงวันที่ 24 เมษายน ปี 2018 ทันทีหลังจากลงเครื่องบิน นายสี จิ้นผิงก็ได้เดินทางไปยังนิคมอุตสาหกรรมวัสดุใหม่อี๋ชางของกลุ่มบริษัทซิงฟา เพื่อตรวจสภาพการย้ายและดัดแปลงวิสาหกิจอุตสาหกรรมเคมี ตลอดจนการฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวในบริเวณท่าเทียบเรือดังกล่าว
“ท่านเลขาธิการใหญ่กำชับให้เราเดินหนทางแห่งการพัฒนาสีเขียวที่ถือการรักษาระบบนิเวศเป็นภารกิจสำคัญก่อนอื่นใด ทำให้พวกเรารู้สึกอบอุ่นและมีกำลังใจยิ่ง กว่าสองปีที่ผ่านมา ภายใต้เงื่อนไขบังคับที่ต้องยืนหยัดการอนุรักษ์ระบบนิเวศสำคัญเป็นอันดับแรก พวกเราได้ทุ่มเทมากยิ่งขึ้นในด้านการขับเคลื่อนการดัดแปลงและยกระดับวิสาหกิจด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี” นายหลี่ กั๋วจาง ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทซิงฟากล่าว
ร่วมกันอนุรักษ์ระบบนิเวศ ไม่บุกเบิกพัฒนาเกินตัว เมืองเย่ว์หยาง มณฑลหูหนาน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำแยงซีได้ใช้ความพยายามและเดินตามหนทางแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพสูง ภายใต้เงื่อนไขบังคับที่ไม่ล้ำ “เส้นแดง” แห่งการรักษาระบบนิเวศ
บ่ายวันที่ 25 เมษายน ปี 2018 ปธน.สี จิ้นผิงเดินทางไปยังท่าเรือหวาหรงในเขตจวินซาน เมืองเย่ว์หยาง ตรวจสภาพการยกเลิกและดัดแปลงฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวของท่าเรือขนถ่ายหินทรายที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ เดินตรวจสถานีลาดตระเวนและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติระดับประเทศต้งถิงหู เพื่อดูระบบติดตามตรวจตรา
“ท่านเลขาธิการใหญ่ชี้ว่า จะปล่อยให้สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศแม่น้ำแยงซีเลวร้ายไปมากกว่านี้ในรุ่นพวกเราไม่ได้เด็ดขาด จำต้องส่งมอบสายน้ำที่สะอาดสวยงามแก่ชนรุ่นหลังของเราให้ได้” นายหวัง อีโอว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองเย่ว์หยางกล่าว
นายหวัง อีโอวแนะนำเพิ่มเติมว่า “เจาะจงต่อจุดบกพร่องที่มีอยู่เช่น อุตสาหกรรมดั้งเดิมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเคมีที่ครองสัดส่วนมากเกินไป เราได้สั่งปิดวิสาหกิจธุรกิจเคมีริมแม่น้ำแยงซีไปแล้ว 13 แห่ง และให้วิสาหกิจผลิตกระดาษ 35 แห่งลดปริมาณการผลิตเยื่อกระดาษรวม 980,000 ตัน”
พร้อมไปกับการรักษาใส่ใจแม่น้ำแยงซีนั้น เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงก็ห่วงใยแม่น้ำหวงเหอ (แม่น้ำเหลือง) ที่ไหลเลี้ยวลดคดเคี้ยวในภาคเหนือของจีนเช่นกัน
“ข้าพเจ้าเคยกล่าวว่า แม่น้ำแยงซีป่วยและอาการไม่เบาด้วย วันนี้ข้าพเจ้าต้องพูดว่า เป็นเวลานานมาแล้วที่แม่น้ำหวงเหอก็มีอาการอ่อนแอและเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย เกิดอุทกภัยถี่มาก” ปธน.สี จิ้นผิงเคยกล่าวเช่นนี้ด้วยความห่วงใยขณะลงพื้นที่ตรวจงานที่มณฑลกันซู่เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2019 ในใจเขาคิดหาหลักแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ จัดวางกลยุทธ์การบริหารจัดการที่ตรงจุดเพื่อให้แม่น้ำสายสำคัญซึ่งถือเป็นบ่อเกิดแห่งประชาชาติจีนสายนี้ได้คงไว้ซึ่งความมีชีวิตชีวาตลอดไป
แม่น้ำเฝินเหอ เป็นแม่น้ำสาขาใหญ่อันดับที่ 2 ของแม่น้ำหวงเหอ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2017 ขณะลงพื้นที่ตรวจงานในมณฑลซานซี ทางภาคเหนือของจีน ปธน.สี จิ้นผิงได้ออกคำสั่งให้ “ดำเนินการเพิ่มปริมาณน้ำ ยกระดับคุณภาพน้ำและให้ทัศนียภาพของแม่น้ำเฝินเหอมีความสวยงามยิ่งขึ้น”
เที่ยงวันที่ 12 พฤษภาคม ปี 2020 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังสะพานจิ้นหยางในเมืองไท่หยวนที่แม่น้ำเฝินเหอไหลผ่านโดยเฉพาะ เพื่อเดินตรวจงานตามทางริมฝั่งแม่น้ำ ได้แสดงความพอใจเมื่อเห็นสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศตามสองฝั่งแม่น้ำเฝินเหอที่ไหลผ่านเมืองไท่หยวน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นเป็นอย่างมาก
“พวกเราต่างรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ และภาคภูมิใจที่ได้มาทำงานฟื้นฟูบริเวณแม่น้ำเฝินเหอ” เมื่อหวนคิดถึงภาพท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงมาตรวจงาน นายจาง เผิงเฉิง พนักงานดูแลรักษาความสะอาดริมฝั่งแม่น้ำเฝินเหอมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เขาบอกนักข่าวว่า “แม่น้ำเฝินเหอเปลี่ยนโฉมดีขึ้นทุกปี และทุก 3 ปีจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เวลานี้ ขยะที่ต้องเก็บกวาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่งก้นบุหรี่ก็พบน้อยมากแล้ว”
“ต้องปลูกฝังแนวคิดน้ำใสภูเขาเขียวคือภูเขาเงินภูเขาทองอย่างหนักแน่น” ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา ปธน.สี จิ้นผิงเคยกำชับเช่นนี้มาตลอดในโอกาสต่าง ๆ เช่น เวลาเข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ในฐานะอาสาสมัครในกรุงปักกิ่ง หรือขณะลงพื้นที่ตรวจงานที่มณฑลเจ้อเจียง ส่านซี ซานซี หนิงเซี่ย และจี๋หลิน เป็นต้น รวมถึงเวลาเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนและสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง
“ผลจากภาคปฏิบัติได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การพัฒนาเศรษฐกิจจะทดแทนด้วยการทำลายระบบนิเวศไม่ได้ ระบบนิเวศเองก็คือเศรษฐกิจ การอนุรักษ์ระบบนิเวศก็คือการพัฒนาเศรษฐกิจ ” คำกล่าวของปธน.สี จิ้นผิงหนักแน่นทรงพลัง
“ถ้ามนุษย์ปฏิบัติดีต่อเขาเขียว เขาเขียวก็จะมอบสิ่งดีงามแก่มนุษย์เช่นกัน”
“เวลานี้ โครงการก่อสร้างหออารยธรรมนิเวศวิทยาหวาเซี่ยและศูนย์อบรมอารยธรรมนิเวศวิทยา ตลอดจนโครงการอื่น ๆ ต่างกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างรวดเร็ว” ณ พื้นที่ทัศนียภาพเมืองหวาเซี่ยในเขตหวนชุ่ย เมืองเวยไห่ มณฑลซานตง นายเซี่ย ชุนถิง ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมหวาเซี่ยกล่าวกับนักข่าวด้วยความมั่นใจต่ออนาคตการพัฒนาของบริษัท
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ปี 2018 ปธน.สี จิ้นผิงเคยเดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการฟื้นฟูระบบนิเวศของกลุ่มบริษัทหวาเซี่ย ที่นี่เคยเป็นเหมืองหินในสภาพเสื่อมโทรม หลังผ่านการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ ได้กลายเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ที่ส่งกลิ่นหอมและนกนานาชนิดที่ส่งเสียงไพเราะ นายสี จิ้นผิงเดินตามทางเดินเท้าตรวจโฉมหน้าใหม่ของเขตดัดแปลงไปพลาง พูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดกับชาวบ้านไปพลาง เขาแสดงความชื่นชมที่กลุ่มบริษัทหวาเซี่ยได้ส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม พร้อมเพิ่มการจ้างงานและสร้างรายได้สู่ความมั่งคั่งแก่ชาวบ้านในแถวนั้นผ่านการฟื้นฟูระบบนิเวศ
การฟื้นฟูระบบนิเวศไม่เพียงแต่ช่วยให้มวลชนในบริเวณรอบ ๆ ได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่สวยงามยิ่งขึ้นเท่านั้น หากยังได้ตอบแทนผลประโยชน์ที่มองเห็นและจับต้องได้แก่พวกเขาได้อีกด้วย ซ่ง เย่ว์เหมย ชาวชุมชนเซี่ยงหยาง ถนนซงซาน เขตหวนชุ่ยกล่าวว่า “5 หมู่บ้านบริเวณรอบ ๆ เราได้ดำเนินการบูรณะหมู่บ้านเก่า และพวกเราต่างก็ได้เข้าอาศัยอยู่ในบ้านใหม่ อีกทั้งได้จัดตั้งเขตชุมชนใหม่ด้วย ดัชนีชี้วัดระดับความสุขของพวกเรานับวันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“ถ้ามนุษย์ดีกับเขาเขียว เขาเขียวก็ย่อมจะมอบสิ่งดีงามแก่มนุษย์เช่นกัน” ภายใต้การชี้นำแนวคิดอารยธรรมนิเวศวิทยาของปธน.สี จิ้นผิง จีนได้เร่งการพัฒนาสีเขียวและการสร้างสรรค์อารยธรรมนิเวศวิทยา ความรู้สึกที่ได้รับประโยชน์ มีความสุขและปลอดภัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของประชาชนจีนได้รับการยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ณ พื้นที่ป่าไม้ต้าชิงเหอในเขตใหม่สงอัน มณฑลเหอเป่ย ทางภาคเหนือของจีน นายเกา เจี้ยนซวิน ชาวหมู่บ้านเกาเสี่ยวหวัง ตำบลผิงหวัง อำเภอหรงเฉิง กำลังยุ่งอยู่กับการดูแลต้นไม้ ทั้งรดน้ำ กำจัดวัชพืชและตัดแต่งกิ่งไม้ เป็นต้น
บ่ายวันที่ 16 มกราคม ปี 2019 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปถึงพื้นที่ปลูกป่าในเขตป่าไม้ต้าชิงเหอ ตรวจสภาพการเจริญเติบโตของพรรณไม้ เดินขึ้นชั้นสองสถานีบริหารจัดการป่าไม้ ทอดสายตาไปไกลมองดูภาพรวมของเขตป่าไม้ พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างเป็นกันเองกับตัวแทนเจ้าหน้าที่ดูแลป่าในท้องถิ่น เขาเน้นว่า “ทำการปลูกพื้นที่สีเขียวก่อน สร้างเมืองทีหลัง นี่คือแนวคิดใหม่แห่งการสร้างสรรค์เขตใหม่สงอัน ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่ดีถือเป็นปรากฏการณ์ทางคุณค่าที่สำคัญของเขตใหม่สงอัน”
“ท่านเลขาธิการใหญ่นอกจากชื่นชมมากต่อปฏิบัติการที่ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์มาปลูกป่าและใช้วิธีการทางระบบข้อมูลสารสนเทศมากำกับดูแลป่าไม้แล้ว ท่านยังเอาใจใส่ยิ่งต่อสภาพการทำงานและรายได้ของชาวบ้านด้วย ทำให้พวกเรารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นพิเศษและมีกำลังใจอันเต็มเปี่ยม” นายเกา เจี้ยนซิง วัย 52 ปีกล่าว เขากับชาวบ้านท่องถิ่นจำนวนไม่น้อยได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ปลูกและคุ้มครองป่า ร่วมกันดูแลรักษาเขตป่าไม้แห่งนี้
นายเผิง ซี่ว์ รองผู้จัดการใหญ่บริษัทสร้างสรรค์ระบบนิเวศของกลุ่มบริษัทสงอันแห่งประเทศจีนกล่าวว่า “เมื่อปี 2019 เขตใหม่สงอันได้ปลูกป่าราว 200,000 โหม่วหรือประมาณ 83,333 ไร่ ปีนี้ โครงการนี้จะปลูกป่าเพิ่ม 100,000 โหม่วหรือประมาณ 41,667 ไร่ ”
ตาม “แผนแม่บทเขตใหม่สงอัน มณฑลเหอเป่ย(ปี 2018-ปี 2035)” อัตราพื้นที่ป่าไม้ครอบคลุมของเขตใหม่สงอันจะเพิ่มจากร้อยละ 11 ในปี 2017 มาเป็นร้อยละ 40 “เมืองแห่งสีเขียวแห่งหนึ่งจะค่อย ๆ ปรากฏตัวต่อหน้าชาวโลก” นายเผิง ซี่ว์กล่าวด้วยความมั่นใจอย่างสูง
ที่ประชุมเต็มคณะแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ครั้งที่ 5 ได้เสนอเป้าหมายใหม่แห่งการสร้างสรรค์สังคมมีกินมีใช้อย่างรอบด้าน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายใหม่นั้นก็คือ “คุณภาพสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศได้รับการปรับปรุงดีขึ้นโดยรวม” ทุกวันนี้ ในดัชนีเชิงผูกมัด 9 ประการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนระยะ 5 ปีฉบับที่ 13 นั้น ได้บรรลุผลสำเร็จก่อนกำหนดแล้วถึง 8 รายการ ซึ่งที่เหลือย่อมจะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ตามกำหนดเวลาแน่นอน