วันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายวาง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศที่กรุงปักกิ่งว่า สถานการณ์โควิด-19 ไม่กระทบต่อการติดต่อและความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน โดยความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายดำเนินไปอย่างแน่นแฟ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบาก
วันเดียวกัน นายวาง เหวินปิน ตอบคำถามเกี่ยวกับอนาคตของความร่วมมือจีน-อาเซียน โดยกล่าวว่า “ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนหลายคน จีน-อาเซียนจัดการประชุมพิเศษระดับรัฐมนตรีต่างประเทศว่าด้วยโควิด-19 ดำเนินความร่วมมือต้านโรคระบาดในภูมิภาค จีนและอีกหลายประเทศสมาชิกอาเซียนสร้าง ‘ช่องทางพิเศษ’ สำหรับแลกเปลี่ยนบุคลากร และ ‘ช่องทางสีเขียว’ สำหรับการขนส่งพัสดุ เร่งส่งเสริมการฟื้นฟูการทำงานและการผลิต ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์โครงการ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ตลอดจนเพิ่มแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค”
นายวาง เหวินปิน กล่าวแนะนำว่า ปีนี้ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-อาเซียนมีการเติบโต โดยช่วงสามไตรมาสแรกปีนี้ ยอดการค้าระหว่างสองฝ่ายสูงถึง 481,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 1 ใน 7 ของปริมาณการค้าของจีน ขณะเดียวกัน ยอดการลงทุนของจีนในประเทศอาเซียนมีมูลค่า 10,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 76.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและศักยภาพอันใหญ่หลวงของความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย เขากล่าวว่า “จีนจะร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดส่งเสริมความร่วมมือและการติดต่อในยุคหลังโรคระบาด ถือวาระ 30 ปี แห่งการก่อตั้งความสัมพันธ์ด้านการเจรจาระหว่างจีน-อาเซียนในปีหน้า ขับเคลื่อนความสัมพันธ์สองฝ่ายให้ก้าวไปอีกระดับ จีนจะยังคงสนับสุนนอาเซียนในฐานะศูนย์กลางความร่วมมือในภูมิภาคต่อไป ตลอดจนส่งเสริมเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคเอเชียตะวันออก”
ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 จีน-อาเซียนมีการติดต่อกันอย่างแน่นแฟ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการจัดกิจกรรมครั้งที่ 3 ในสังกัดฟอรั่มจาการ์ตาว่าด้วยความสัมพันธ์จีน-อาเซียน ขณะที่ปลายเดือนนี้จะมีมหกรรมจีน-อาเซียน ครั้งที่ 17 รวมถึงการประชุมสุดยอดธุรกิจและการลงทุนจีน-อาเซียนที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างซี