งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติของจีน (CIIE) ครั้งที่ 3 จะจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้ภูมิหลังที่การค้าทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 งานมหกรรมฯ ครั้งนี้จึงมีความหมายสำคัญ เพราะเป็นการบ่งชี้ว่า แม้ว่าจีนเองก็ได้รับการผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง แต่จีนจะยืนหยัดท่าทีการเปิดกว้างต่อไป และจะลงเรือลำเดียวกันกับประเทศต่าง ๆ เพื่อสู้กับโควิด-19 และผลกระทบที่ตามมา โดยเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ มากขึ้น
องค์การการค้าโลกมีรายงานว่า การค้าของประเทศภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่แตกต่างกันมาก ซึ่งการค้าของประเทศเอเชียลดลงค่อนข้างน้อย ส่วนการค้าของประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกาหดตัวลงอย่างมาก ซึ่งสินค้าด้านการรักษาพยาบาลและการกู้ชีพมีความต้องการพุ่งสูงขึ้น การค้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และการค้าการบริการด้านข้อมูลข่าวสารก็ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถิติแสดงว่า ครึ่งแรกของปีนี้ จีนนำเข้าสินค้าจากประเทศเอเชียอื่น ๆ ลดลงเพียง 1% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว แสดงว่า จีนพยายามเปิดตลาดเพื่อนำเข้าสินค้าของประเทศเอเชีย
เพราะฉะนั้น การจัดงาน CIIE ครั้งนี้ภายใต้ภูมิหลังเช่นนี้ ยิ่งแสดงถึงท่าทีการยืนหยัดเปิดกว้างอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของจีน ปธน. สี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีนมีคำสั่งให้จัดงานมหกกรรมฯ ดียิ่งขึ้นทุกปี มาดูกันว่า งานมหกรรมฯ ครั้งนี้มีลักษณะพิเศษอย่างไรบ้าง
1. พื้นที่จัดแสดงกว้างใหญ่กว่าปีที่แล้ว งาน CIIE ครั้งนี้มีพื้นที่จัดแสดงรวมแล้ว 6 โซน ได้แก่ อาหารและผลิตผลการเกษตร รถยนต์ อุปกรณ์เทคโนโลยี สินค้าคงทน อุปกรณ์การแพทย์และยาบำรุงร่างกาย ตลอดจนการค้าการบริการ ซึ่งพื้นที่จัดแสดงกว้างใหญ่กว่าเมื่อปีที่ผ่านมา
2. มีโซนจัดแสดงพิเศษตามประเด็นร้อนของโลกและแนวโน้มพัฒนาการของอุตสาหกรรม เช่น โซนสาธารณสุขและการป้องกันควบคุมโรคระบาด โซนประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โซนการจราจรอัจฉริยะ และโซนสินค้าการแข่งขันกีฬา โดยได้รับการชื่นชมจากวิสาหกิจที่มาร่วมงานฯ
3. วิสาหกิจที่ลงทะเบียนร่วมงานฯ มีคุณภาพสูงขึ้น วิสาหกิจติดท็อป 500 อันดับแรกของโลกได้สมัครร่วมงานอย่างแข็งขัน และมีวิสาหกิจจำนวนไม่น้อยลงทะเบียนร่วมงานมหกรรมฯ 3 ครั้งต่อไปด้วย ซึ่งวิสาหกิจติด 10 อับดับแรกของโลกด้านอุตสาหกรรมยารักษาโรค อุปกรณ์การแพทย์ นมวัว เครื่องสำอาง รถยนต์ และวิศวกรรมได้ลงทะเบียนร่วมงานแล้ว นอกจากนี้ ยังมีวิสาหกิจหลายแห่งนำผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีและการบริการล่าสุดมาเปิดตัวที่จีนเป็นประเทศแรก
มาดูกันว่าแต่ละโซนมีอะไรน่าติดตามบ้าง
โซนอาหารและผลิตผลการเกษตรมีพื้นที่ 9 หมื่นตารางเมตร โดยจัดแสดงผลิตภัณฑ์นมวัว ผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์เนื้อและสัตว์น้ำ ของกินเล่น เครื่องปรุงรส เหล้า ไวน์ เครื่องดื่มและอื่น ๆ
โซนรถยนต์มีพื้นที่จัดแสดง 3 หมื่นตารางเมตร นอกจากจะจัดแสดงรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และการบริการที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังได้จัดโซนการจราจรอัจฉริยะพื้นที่ 3,000 ตารางเมตรด้วย โดยวิสาหกิจรถยนต์ที่มีชื่อต่าง ๆ ของโลกจะนำรถยนต์และเทคโนโลยีล่าสุดมาเปิดตัวในงาน
สินค้าที่จัดแสดงที่โซนอุปกรณ์เทคโนโลยีแสดงถึงเทคโนโลยีระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมอุปกรณ์โลก นอกจากจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์อัจฉริยะแล้ว ยังจะจัดแสดงสินค้าที่แสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะจัดโซนประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ จัดฉากแสดงการทำงานของระบบฮีตเตอร์ที่ใช้พลังงานสะอาด ฉากชนบทสวยงามที่ใช้พลังงานใหม่และใช้ทรัพยากรแบบหมุนเวียน ที่ผู้ชมสามารถสัมผัสกับความสมจริงดังกล่าวได้ด้วย ในช่วงจัดงานฯ ยังจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการผลิตสีเขียวด้วย
โซนสินค้าคงทนมีพื้นที่ 9 หมื่นตารางเมตร โดยจะแสดงฉากการใช้ชีวิตและเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอัจฉริยะ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์สำหรับทารก เด็ก และหญิงตั้งครรภ์ ผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรม เครื่องสำอาง เพชรพลอยเครื่องแต่งกาย และเสื้อผ้านำแฟชั่น นอกจากนี้ ยังได้จัดโซนแสดงผลิตภัณฑ์กีฬาและแนะนำการแข่งขันกีฬาที่มีชื่อระดับโลก โดยได้เชิญแบรนด์สินค้ากีฬาและวิสาหกิจด้านเทคโนโลยีการกีฬามาร่วมออกบูธในงานด้วย
ส่วนโซนอุปกรณ์การแพทย์และยาบำรุงสุขภาพ นับเป็นโซนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในงานครั้งนี้ แม้ว่าทางผู้จัดงานได้ขยายพื้นที่โซนนี้ให้เป็น 6 หมื่นตารางเมตร แต่ยังไม่สามารถสนองความต้องการของวิสาหกิจที่ขอเช่าบูธ ซึ่งมีเกือบ 340 วิสาหกิจที่ทำธุรกิจด้านอุปกรณ์การแพทย์และยาบำรุงสุขภาพแข่งขันกันเช่าบูธของโซนดังกล่าว
โซนนี้จะจัดแสดงยารักษาโรค อุปกรณ์การแพทย์ ยาบำรุงสุขภาพ และการบริการด้านการดูแลคนชราแลบริการด้านการรักษาพยาบาล โซนนี้ได้จัดโซนพิเศษด้านสาธารณสุขและการป้องกันควบคุมโรคระบาด โดยจะแสดงผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการบริการด้านสาธารณสุข ตลอดจนสินค้ายอดนิยมที่แสดงบทบาทสำคัญในการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เช่น หน้ากาก ยาฆ่าเชื้อ ชุดอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ชุดตรวจโควิด-19 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง (CT) เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอดหรือเครื่องเอคโม่ เครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการกู้ชีพ
ที่น่าสังเกตคือ บริษัท GE ซึ่งร่วมงานต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ 3 นั้น จะนำระบบดูแลและรักษาผู้ป่วยทางไกลมาจัดแสดงที่งานครั้งนี้ด้วย นับเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดในจีนเป็นประเทศแรก ระบบนี้มีความหมายสำคัญยิ่ง เพราะเมื่อผู้ป่วยที่ต้องเข้า ICU มีจำนวนมาก คุณหมอสามารถดูแลและรักษาผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจผ่านระบบทางไกลดังกล่าวได้ และสามารถแยกแยะว่าผู้ป่วยคนไหนบ้างที่อาจจะมีอาการหนักขึ้น
ระบบดังกล่าวจะทำให้คุณหมอสามารถดูแลผู้ป่วยพร้อมกันจำนวนมาก และที่สำคัญจะลดความเสี่ยงที่ให้แพทย์ต้องติดโรค ประหยัดอุปกรณ์ป้องกันและทรัพยากรการแพทย์ต่าง ๆ ด้วย ซึ่งขณะนี้วิสาหกิจยารักษาโรคและอุปกรณ์แพทย์ 500 อันดับแรกของโลกมีกว่า 70 รายมาร่วมงานครั้งนี้ เพิ่มเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับงานครั้งแรก
โซนจัดแสดงการค้าการบริการมีพื้นที่ 3 หมื่นตารางเมตร โดยจัดแสดงการบริการโลจิสติกส์ การให้คำปรึกษา การตรวจสอบบัญชี การบริการด้านกฎหมาย การเงิน วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และอื่น ๆ
ในส่วนของวิสาหกิจจากไทยก็ได้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการ นับเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศคนแรกที่เยือนไทยหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยได้เชิญประเทศไทยเข้าร่วมงานครั้งนี้อย่างแข็งขันด้วย
การเยือนครั้งนี้ก็ได้บรรลุความตกลงหลายประการกับทางไทย เช่น จีนยินดีให้ไทยแบ่งปันผลประโยชน์จากการปฏิรูปเปิดประเทศของจีน ส่งเสริมการประสานงานทางยุทธศาสตร์กับไทย ผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการพัฒนามากขึ้นในยุคหลังโควิด-19
ทั้งสองประเทศจะป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคร่วมกัน และกระชับความร่วมมือด้านวัคซีน ผลักดันการติดต่อประสานกันของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของไทยกับอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าอย่างลุ่มลึก สร้างไฮไลท์ใหม่แห่งความร่วมมือภายใต้กรอบ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" จีนจะสนับสนุนให้วิสาหกิจจีนมาลงทุนที่ไทยมากขึ้น ขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลกับไทย จีนยินดีแบ่งปันประสบการณ์ด้านการขจัดความยากจนของตน ดำเนินความร่วมมือด้านการขจัดความยากจนกับไทย ซึ่งวิสาหกิจไทยที่ร่วมงานครั้งนี้ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทอุตสาหกรรมอาหารต่าง ๆ
งานมหกรรมฯ ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ภูมิหลังที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดในโลก และส่งผลกระทบถึงการค้าโลกอย่างมาก การที่จีนยืนหยัดจัดงานมหกรรมนำเข้าสินค้านานาชาติแสดงว่า จีนมีความตั้งใจที่จะเปิดกว้างมากขึ้น และนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมากขึ้น หวังว่า ทั่วโลกจะร่วมมือกันสู้กับโควิด-19 และพ้นจากวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว