สรุปประสบการณ์การป้องกันและควบคุมโรคโควิด - 19 ของประเทศไทย

2020-10-21 15:00:04 |แหล่งที่มา: นิตยสารแม่น้ำโขง

เมื่อต้นปี พ.ศ. 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยได้ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด - 19 รายแรก พร้อมทั้งได้รายงานไปยังองค์การอนามัยโลก ในระยะแรกสื่อมวลชนไทยมีรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด - 19 ไม่มากนัก ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด มีอำนาจเต็มในการออกกฎและระเบียบที่จะบริหารจัดการกับโรคโควิด - 19 โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของแต่ละจังหวัด และได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ ที่เหมาะสม เช่น การกักกันตัวผู้ต้องสงสัย การห้ามการเดินทางออกนอกเขตและเข้ามาในจังหวัดการปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ การสวมหน้ากากอนามัยการห้ามชุมนมหรือรวมตัวกัน และมาตรการอื่น ๆ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ได้ใช้อำนาจที่ได้รับนี้อย่างรัดกุมและเข้มแข็ง หากจังหวัดไหนมีหรือพบผู้ป่วยโควิด - 19 เป็นจำนวนมากขึ้นโดยไม่มีเหตุผลก็จะถูกเพ่งเล็ง และผู้บริหารของจังหวัดนั้น ๆ จะถูกตำหนิ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้จัดผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเหลือตามที่ต่าง ๆ และยังได้จัดบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ความรู้แก่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่มีอยู่ทุกหมู่บ้าน คอยตรวจสอบและเฝ้าระวังผู้ต้องสงสัย หากพบผู้มีไข้สูงเกิน 37.5 องศา หรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงก็จะเข้าไปทำการตรวจและรายงานไปยังผู้รับผิดชอบ

นอกจากนี้รัฐบาลส่วนกลางยังได้สั่งปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินพาณิชย์ผ่านเข้าออก ยกเว้นเครื่องบินที่รับและส่งคนไทยที่จำเป็นต้องกลับจากต่างประเทศ รวมทั้งสั่งปิดชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำทุกด่าน กำหนดให้บุคคลที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะต้องถูกกักกันตัวในสถานกักกันตัวของรัฐเป็นเวลา 14 วัน และนายกรัฐมนตรีได้ใช้กฎหมายพิเศษประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น. ของทุกวัน

ในฐานะที่กระผมเป็นนายแพทย์เคยทำงานทั้งในโรงพยาบาลระดับอำเภอและในโรงพยาบาลใหญ่ระดับจังหวัด ในอดีตเคยพบเห็นโรคระบาดไข้หวัดนก และโรค SARS เมื่อแรกก็เข้าใจว่าโรคโควิด - 19 จะมีลักษณะคล้ายกัน แต่พอมีการระบาดเกิดขึ้นจริง กลับพบว่าโรคโควิด - 19 ร้ายแรงและน่ากลัวกว่ามาก ในระยะแรกที่ประเทศไทยพบการระบาดของโรคโควิด ฯ หลาย ๆ จังหวัดต่างขาดแคลนหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ มีพยาบาลบางคนติดเชื้อโรคโควิด ฯ จากผู้ป่วย เดชะบุญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงตรัสให้กำลังใจและบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนมากมาช่วยเหลือประชาชน

กล่าวโดยสรุป ด้วยความร่วมมือของข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากยังตรวจพบประชาชนที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโรค ฯ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังคงรุนแรงส่งผลให้รัฐบาลไทยชะลอการเปิดประเทศและยังคงกฎหมายพิเศษเคอร์ฟิวรวมทั้งให้ประชาชนสวมหน้ากากและรักษาระยะห่างทางสังคมต่อไป คาดว่าในไม่ช้าเมื่อสถานการณ์ของประเทศรอบข้างดีขึ้น ประชาชนก็จะสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวลงมากกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น

กระผมขอชื่นชมการทำงานของบุคลากรทางสาธารณสุขรวมทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขที่ช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ในครั้งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศแล้วประเทศไทยถือได้ว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี จนในที่สุดได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกและประชาคมโลก

โดยนายแพทย์ กำจัด รามกุล อดีดนายแพทย์ทรงคุณวุฒิประจำกระทรวงสาธารณสุข

滇ICP备 09002441号
中华人民共和国国务院新闻办公室 支持指导
云南省人民政府新闻办公室 主办
云南日报报业集团 承办
本网站由云桥网版权所有,未经授权禁止复制或建立镜像
Copyright ©yunnangateway.com All Rights Reserved since 2006