วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน พบปะกับ พลเอกลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน ทูตพิเศษประธานาธิบดีอินโดนีเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงาน ที่เมืองเถิงชง มณฑลหยุนหนานของจีน
นายหวัง อี้ กล่าวว่า จีนดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อินโดนีเซียจากมุมมองเชิงยุทธศาสตร์มาโดยตลอด ปีนี้ ตรงกับวาระครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-อินโดนีเซีย จึงหวังว่า สองฝ่ายจะยังคงส่งเสริมความเชื่อถือทางการเมืองและความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กันใน 2 ประเด็นหลัก คือ การรับมือสถานการณ์โรคระบาด และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งนี้ จีนยินดีร่วมมือกับอินโดนีเซียขับคลื่อนกระบวนการวิจัย ผลิต และประยุกต์ใช้วัคซีน สนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานทางการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีส่วนผลักดันความร่วมมือในการสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ซึ่งถือเป็นอาวุธอันทรงพลังในการรับมือผลกระทบจากโรคระบาด ขณะเดียวกัน สองฝ่ายยังควรส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและบุคลากร โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน นอกจากนี้ จีนยังยินดีแบ่งปันประสบการณ์การขจัดความยากจนแก่อินโดนีเซียอย่างเปิดเผย
นายหวัง อี้ กล่าวเน้นด้วยว่า เมื่อหันมองประวัติศาสตร์ จีนและอินโดนีเซียเคยร่วมกันสนับสนุน “เจตนารมณ์บันดุง” โดยมีหลัก 5 ประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเป็นแกนหลัก ปัจจุบัน สองฝ่ายยิ่งควรทำตัวเป็นผู้นำในการยืนหยัดความเที่ยงธรรม พิทักษ์ลัทธิพหุภาคี และความเป็นประชาธิปไตยของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พิทักษ์ผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมถึงแสดงความรับผิดชอบในฐานะประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่
ด้านพลเอกลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน กล่าวว่า สันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคจำเป็นต้องมีประชาชนและประเทศในภูมิภาคนั้น ๆ ร่วมมือกันพิทักษ์รักษา ประเทศภายนอกไม่ควรแทรกแซงและยุ่งเกี่ยว ทั้งนี้ อินโดนีเซียยินดีร่วมมือกับจีน ร่วมสนับสนุนลัทธิพหุภาคี ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาและความร่วมมือของภูมิภาคและของโลก