แพทริค นิส อดีตเอกอัครราชทูตเบลเยียมประจำประเทศจีน กับความฝันที่จะใช้ชีวิตในชนบทยูนนาน

2020-07-07 14:46:10 |แหล่งที่มา: Yunnangateway

“ในปี ค.ศ. 2010 ผมได้มาที่มณฑลยูนนานเป็นครั้งแรก และหลงรักที่นี่ทันที ยูนนานสามารถเติมเต็มความฝันการใช้ชีวิตในชนบทของผมได้” คุณแพทริค นิส อดีตเอกอัครราชทูตเบลเยียมประจำประเทศจีนกล่าว

คุณนิส เกิดในปี ค.ศ. 1950 ที่เมืองคองโก ซึ่งขณะนั้นคุณพ่อของเขาเป็นนักการทูตในแอฟริกา ทำให้คุณนิสใช้เวลาเกือบทั้งวัยเด็กอยู่ที่นั่น ในปี ค.ศ. 1997 คุณนิสซึ่งมีอายุ 47 ปี ได้เดินทางมาประเทศจีนในฐานะกงสุลใหญ่แห่งเบลเยี่ยมประจำเมืองเซี่ยงไฮ้ คุณนิสรู้สึกตื่นเต้นมากที่รู้ว่ากำลังจะได้ไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ “ในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสมาที่อาณาจักรแห่งตะวันออกซึ่งเป็นประเทศในฝันของผม”

นอกจากเซี่ยงไฮ้แล้ว คุณนิสยังได้ย้ายไปทำงานที่นครปักกิ่ง ฮ่องกง และสถานที่อื่น ๆ ในประเทศจีน และในช่วงเวลานี้เองทำให้เขาได้พบรักกับคุณเติ้ง หมินเหยียน ภรรยาคนปัจจุบันของเขา “จีนเปรียบเสมือนแม่เหล็กวิเศษที่ดึงดูดผมมาตลอด” คุณนิสกล่าว ในปี ค.ศ. 2013 เนื่องจากต้องการอยู่ที่ประเทศจีนต่อ เขาจึงต้องสละโอกาสที่จะไปเป็นทูตที่ประเทศตุรกี แล้วเดินทางกลับไปเมืองตงชวน มณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน อันเป็นบ้านเกิดของภรรยาเขา เพื่อไล่ตามความฝันการใช้ชีวิตในชนบทอันงดงามของเขา

คุณนิสใช้ชีวิตในชนทอย่างเรียบง่าย เขาทำการเกษตรด้วยวิธีธรรมชาติไม่มีการไถพรวนดิน ไม่ใส่ปุ๋ย ไม่มีการฉีดยาฆ่าแมลงหรือยาปราบศัตรูพืช หรือแม้กระทั่งไม่มีการถอนวัชพืชใด ๆ เขาเชื่อว่าการไถพรวนดินจะเป็นการรบกวนแมลงและจุลินทรีย์ในดิน และทำลายความสมดุลทางนิเวศของดิน “หากแมลงมีชีวิตที่ไม่สงบ พืชผลก็จะเติบโตได้ไม่ดีเช่นกัน” แต่เกษตรกรในหมู่บ้านกลับมองว่า หากไม่พรวนดินพืชก็จะไม่เจริญงอกงาม หากไม่มีการถอนหญ้าแสดงว่าเป็นคนขี้เกียจ ชาวบ้านทำการเกษตรโดยใช้แผ่นฟิล์มพลาสติก ใส่ปุ๋ยให้พืช และใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลับทำให้คุณนิสรู้สึกไม่พอใจ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณนิสและชาวบ้านต่างก็มีความเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ “สำหรับเกษตรกรแล้ว การทำการเกษตรไม่ใช่แค่เรื่องของการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวพืชผล แต่ต้องดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ อย่างเป็นวัฏจักร” คุณนิสกล่าวว่า การทำให้ดินและเกษตรกรมีสุขภาพดีเป็นความปรารถนาร่วมกันของเขาและชาวบ้าน

ช่วงเวลา 7 ปี ทำให้คุณนิสได้หลอมรวมเข้ากับชีวิตในชนบทของมณฑลยูนนาน เขาและเพื่อน ๆ ในหมู่บ้านมักร่วมกันทำการเกษตร ร่วมกินร่วมดื่ม หรือสูบบุหรี่ซิการ์ด้วยกัน หากไม่สังเกตให้ดี ชายใบหน้าฝรั่งภายใต้หมวกฟาง ก็อาจจะทำให้บุคคลภายนอกคิดว่าเขาเป็นเพียงชาวนาธรรมดา ๆ คนหนึ่งในพื้นที่ดินสีแดงแห่งนี้ “ปัจจุบัน หากต้องออกไปนอกพื้นที่เป็นครั้งคราว ผมก็จะร้อนใจอยากรีบกลับมาที่หมู่บ้าน ผมรักพืช รักนก รักแมลง และรักทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่”

ไม่นานมานี้ คุณนิสได้เข้าร่วมพิธีศพในหมู่บ้านใกล้เคียง “ชาวบ้านไม่ได้ปฏิบัติต่อผมเฉกเช่น 'คนต่างชาติ' พวกเขาให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี” คุณนิสกล่าว หลังจากเสร็จสิ้นงานศพชาวบ้านต่างเรียกเขาว่า “คนในหมู่บ้าน” มากกว่าคำว่า “ชาวต่างชาติ” คุณนิสเล่าว่า หมู่บ้านในประเทศจีนภายใต้สภาวะการณ์การแพร่ระบาด ทุกคนเสมือนนักรบที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องซึ่งกันและกัน และร่วมต่อต้านโรคระบาดด้วยกัน

สิ่งที่ทำให้คุณนิสรู้สึกมีความสุขมากก็คือ การทำการเกษตรแบบยั่งยืนของเขาในมณฑลยูนนาน ได้ดึงดูดหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนมากให้มาศึกษาหาความรู้จากเขา “วัฒนธรรมจีนเกิดขึ้นจากการทำการเกษตรโดยอาศัยฟ้าและดินมาเป็นเวลาหลายพันปี พึ่งพาแสงแดดและสายฝน สำหรับธรรมชาติแล้วคนจีนเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง"

คุณนิสมองไปที่ผักชีฝรั่งในสวนซึ่งเขาเป็นคนปลูกพร้อมกล่าวว่า “คุณดูผักชีฝรั่งที่ผมนำมาจากเบลเยี่ยมพวกนั้นสิ พวกมันก็เหมือนกับผม มีความสุขที่ได้อยู่และเติบโตที่นี่”

滇ICP备 09002441号
中华人民共和国国务院新闻办公室 支持指导
云南省人民政府新闻办公室 主办
云南日报报业集团 承办
本网站由云桥网版权所有,未经授权禁止复制或建立镜像
Copyright ©yunnangateway.com All Rights Reserved since 2006