สำนักข่าวซินหวารายงานว่า การประชุมทางไกลว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 18 มิถุนายนด้วยความสำเร็จ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้มีคำปราศรัยเป็นลายลักษณ์อักษรถึงที่ประชุม
นายสี จิ้นผิงชี้แจงว่า เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกประเทศต่างพิจารณาถึงสภาพความเป็นจริงของตน ใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างมีพลัง และได้รับผลสำเร็จที่น่าพอใจ อนึ่ง บนพื้นฐานแห่งการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมให้ดีต่อเนื่องนี้ หลายประเทศกำลังมุ่งใช้ความพยายามฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมกันด้วย โดยจีนยังยึดมั่นในหลักการที่ประชาชนและชีวิตสำคัญเป็นที่สุด ยินดีจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณูปการต่อการเอาชนะโควิด-19 และส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
ปธน.สี จิ้นผิงของจีนระบุว่า ประเทศต่าง ๆ มีโชคชะตาที่เกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด มนุษยชาติดำรงอยู่ภายใต้ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันและในลักษณะร่วมด้วยช่วยกัน การต้านทานการระบาดของโควิด-19 หรือการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็ตาม ล้วนต้องก้าวไปบนหนทางแห่งความร่วมมือ และควรต้องยืนหยัดแนวคิดพหุภาคี เพราะฉะนั้น การส่งเสริมการเชื่อมโยงกัน ยืนหยัดการเปิดสู่ภายนอกและความกลมกลืนสมานฉันท์นั้น เป็นทิศทางที่จำเป็นเพื่อรับมือกับวิกฤตระดับโลก และบรรลุการพัฒนาในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ การร่วมสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” นั้น ย่อมสามารถแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่ง
นายสี จิ้นผิงยังเน้นว่า จีนยืนหยัดเรื่องการพัฒนาอย่างสันติและอำนวยประโยชน์แก่กันมาโดยตลอด ยินดีจะจับมือกับหุ้นส่วนความร่วมมือทั้งหลาย เพื่อพัฒนาสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้เป็นหนทางแห่งความร่วมมือที่สามัคคีกันรับมือกับการท้าทาย หนทางแห่งสุขภาพที่ปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและสุขภาพของประชาชน หนทางแห่งการฟื้นฟูความเจริญของเศรษฐกิจสังคม และหนทางแห่งการเติบโตที่กระตุ้นศักยภาพการพัฒนาที่แฝงอยู่ อาศัยการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง เป็นลู่ทางผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษย์
อนึ่ง ประเด็นหลักของการประชุมครั้งนี้คือ กระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในการสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จับมือกันต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีจาก 25 ประเทศ รวมทั้ง ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก และนายเอคิม สไตเนอร์ รองเลขาธิการสหประชาชาติได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งทุกฝ่ายได้ผ่านแถลงการณ์ร่วมก่อนปิดประชุมด้วย