วันที่ 8 มิ.ย. ปธน.สี จิ้นผิง ของจีนลงพื้นที่ตรวจงานที่เขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย และในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เดินทางไปที่หมู่บ้านผู้อพยพจากถิ่นทุรกันดารแห่งหนึ่ง ชุมชนของชนกลุ่มน้อยแห่งหนึ่ง และทำนบแม่น้ำหวงเหอ เพื่อรับฟังรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความยากจนในท้องถิ่น การเสริมสร้างการอนุรักษ์ระบบนิเวศของแม่น้ำหวงเหอ และการส่งเสริมสนับสนุนความสามัคคีระหว่างคนในชนเผ่าต่าง ๆ
ประชาชนในหมู่บ้านหงเต๋อ ส่วนใหญ่อพยพมาจากเขตซีไห่กู้ ซึ่งเป็นถิ่นทุรกันดารที่เคยถูกสหประชาชาติประเมินว่าเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ เมื่อทศวรรษ 1980 ทางการเขตหนิงเซี่ยได้อพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารดังกล่าวมายังหมู่บ้านหงเต๋อ และในปี 2019 คนยากจนในหมู่บ้านแห่งนี้ลดลงเหลือเพียง 0.78% ของประชากรทั้งหมดในหมู่บ้าน ชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีอยู่ที่ 8,345 หยวน คนในหมู่บ้านได้ทำการเพาะปลูก และทำปศุสัตว์ มีบางส่วนเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อรับจ้างทำงาน ปัจจุบันชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน
ส่วนชุมชนจินฮวาหยวน ที่ประธานาธิบดีสีเดินทางไปเยี่ยมมีประชากร 13,850 คน ในจำนวนนี้ มีชนเผ่าหุย แมนจู มองโกเลีย และทิเบต คิดเป็น 45% ของประชากรทั้งหมด ประชาชนชนเผ่าต่าง ๆ ในชุมชนแห่งนี้อยู่ร่วมกันอย่างสมัครสมานสามัคคี จึงได้รับเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบระดับชาติในการส่งเสริมความสามัคคีระหว่างชนเผ่าต่าง ๆ
ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังเดินทางไปที่ทำนบแม่น้ำหวงเหอเพื่อรับฟังรายงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศในลุ่มแม่น้ำหวงเหอ ซึ่งแม่น้ำหวงเหอช่วงที่อยู่ในเขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยมีระยะทาง 397 กิโลเมตร