สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐอเมริกายังคงร้ายแรงอยู่ มีผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 20,000 รายต่อวัน สร้างความกังวลให้กับชาวโลกอย่างมาก ผลลัพท์เช่นนี้ต้องตำหนินักการเมืองวอชิงตัน พวกเขาสร้างเรื่องโกหกและปัดความรับผิดชอบเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองของตนเอง โดยไม่เห็นแก่ชีวิตของคนอื่นที่กำลังจะต้องดับสูญไป การกระทำเช่นนี้ทำลายภาพลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ คำกล่าวที่แฝงไว้ซึ่งแนวคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อปัญญาชน (anti-intellectualism) มากที่สุดคือ "ไวรัสมาจากห้องปฏิบัติการอู่ฮั่น" ทั้งขัดต่อหลักวิทยาศาสตร์และก็ไม่ได้เคารพกฎเศรษฐกิจ ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของคนอเมริกัน และทำลายการพัฒนาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เห็นได้ชัดเจนว่า เรื่องนี้ได้กลายเป็น "การทำร้ายตัวเอง" อย่างไม่มีเหตุผล
สำหรับเรื่องแหล่งที่มาของไวรัส ขณะนี้การศึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศได้ยืนยันว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่ใช่ผลผลิตจากห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม นักการเมืองชาวอเมริกันบางคนกลับกล่าวซ้ำ ๆ ว่า มี "หลักฐาน" แสดงว่าไวรัสมีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการอู่ฮั่น ซึ่งนาย Andrew Weissmann อดีตที่ปรึกษาทั่วไปของสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) วิพากษ์วิจารณ์ว่า คำกล่าวนี้สามารถจัดเป็น "ข่าวปลอมของทำเนียบขาว" ที่ไร้สาระเหมือนกับผู้นำสหรัฐฯที่ก่อนหน้านี้ได้พูดว่า ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ก็จะสามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนหน้าการรายงานพบผู้ติดเชื้อรายแรกของทางการสหรัฐฯ นานแล้ว อาจจะตั้งแต่เมื่อไข้หวัดใหญ่ระบาดในเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา ก็มีการแพร่ระบาดของเชื้อในชุมชนชาวอเมริกันแล้วด้วย และหากนักการเมืองในกรุงวอชิงตันยืนยันว่า "ไวรัสมาจากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น" ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่า ไวรัสมีต้นกำเนิดมาจากฟอร์ตเดทริก (Fort Detrick) ศูนย์กลางวิจัยอาวุธเคมีชีวภาพ
สิ่งที่สหรัฐฯ สูญเสียไม่เพียงแค่ชีวิตอันมีค่าของประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่ยังมีภาพลักษณ์ของประเทศที่ต้องแหลกสลายลง จากน้ำมือของนักการเมืองที่สร้างข่าวลือที่ไม่มีเหตุผลขึ้นมา