หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนย้ำถึงการส่งเสริมความตระหนักในความเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ เพื่อคว้าชัยเหนือโรคโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกได้อย่างรวดเร็ว
หลี่ เค่อเฉียงกล่าวในวันอังคาร (14 เม.ย.) ขณะเข้าร่วมการประชุมวาระพิเศษของผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN) และผู้นำจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (อาเซียน+3 หรือ 10+3) ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ผ่านการประชุมทางไกลในกรุงปักกิ่ง
เขากล่าวว่าขณะที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน และระบุว่าโรคโควิด-19 เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพ ความปลอดภัย และชีวิตของผู้คนทั่วโลก
ขณะนี้ เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างหนัก ทั้งอุปสงค์และอุปทานที่หดตัวลงโดยพร้อมเพรียงกัน ตลาดการเงินที่ผันผวนอย่างหนัก รวมถึงการค้าและการลงทุนที่ดิ่งลงเรื่อยๆ
หลี่ชี้ว่า ในฐานะเพื่อนบ้านอันใกล้ชิด ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ได้พัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ และระบบที่เติมเต็มความสามารถเฉพาะทางซึ่งกันและกัน
หลี่กล่าวว่า การรับมือภาวะฉุกเฉิน ทำให้ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ได้รับประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากการแก้ไขวิกฤตร่วมกัน และก่อให้เกิดกลไกที่เพิ่มพูนความพร้อมในการรับมือภาวะฉุกเฉิน
“การต่อสู้กับโรคโควิด-19 ช่วยสร้างความตระหนักเพิ่มขึ้น ว่าเราอยู่ในประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน” หลี่กล่าว “เราต้องประสานงานกันมากขึ้น ต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกัน ต้องแสดงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น และรับมือกับโรคระบาดครั้งนี้อย่างสมัครสมานสามัคคี”
หลี่เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ผลักดันบทบาทเชิงบวกที่พิเศษของกลุ่ม ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 และในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แสดงสัญญาณแห่งความเป็นมิตรและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก เพื่อกระตุ้นความมั่นใจทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
“ร่วมด้วยช่วยกัน จะนำพาเราไปสู่ชัยชนะเหนือโรคโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกในไม่ช้า” หลี่กล่าว