ชุย เทียนข่าย เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าทุกประเทศควรมีส่วนร่วมในความพยายามระหว่างประเทศ ในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยต้องให้ความสำคัญกับชีวิตและสุขภาพของผู้คนเป็นอันดับแรก รวมถึงปฏิเสธการทำเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นทางการเมือง
“ผมคิดว่าสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของเรา และจากประสบการณ์ของประเทศอื่นๆ คือเราต้องให้ความสำคัญกับชีวิตและสุขภาพของผู้คนเป็นอันดับแรก นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องทำไม่ว่ากรณีใด” ชุยกล่าวขณะให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 3 เม.ย. กับเอียน เบรมเมอร์ (Ian Bremmer) ผู้เชี่ยวชาญการเมืองระหว่างประเทศ ในรายการจี-ซีโร เวิลด์ (Gzero World) ซึ่งออกอากาศทั่วประเทศในวันเสาร์ผ่านสถานีโทรทัศน์สาธารณะของสหรัฐอเมริกา
ในประเด็นคำแนะนำของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ ในการรับมือกับโรคระบาด ชุยกล่าวว่า “เราต้องรักษาชีวิตและปกป้องสุขภาพของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่อ่อนแอ คนชรา ผู้ที่มีโรคประจำตัว และคนจนในหลายประเทศ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุดไม่ว่าอย่างไรก็ตาม“
“อันดับสอง เราต้องเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ” ชุยกล่าว “เพราะหากทั่วโลกยังไม่สามารถเอาชนะไวรัสนี้ได้สำเร็จ จะไม่มีประเทศใดปลอดภัย รวมถึงจีนและสหรัฐอเมริกา"
“เราต้องปฏิเสธความพยายามใดๆ ก็ตาม ที่กำลังฉวยโอกาสทางการเมืองจากความทุกข์ยากของผู้อื่น" “น่าเสียดาย ที่ยังมีผู้ที่กระทำเช่นนี้เกิดขึ้นที่นี่ และอาจจะที่อื่นๆ ในโลก“
"เราต้องทำงานร่วมกันและปฏิเสธความพยายามในข้างต้นอย่างหนักแน่น จากนั้น ในระยะยาว ผมคิดว่าเราควรถอดบทเรียนที่ได้จากโรคระบาดนี้อย่างเหมาะสม" ชุยกล่าว
“ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คนจำนวนมากพูดถึงการแข่งขันทางยุทธศาสตร์ระหว่างมหาอำนาจ กับดักทิวซิดิดีส (Thucydides) และอื่นๆ ต่างๆ นานา แต่น้อยคนนักที่จะคาดการณ์ว่าไวรัสที่มองไม่เห็นจะส่งผลกระทบมหาศาลต่อพวกเราทุกคน” เขากล่าวพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “ดังนั้น ผมว่าเราต้องคิดกันอย่างจริงจังว่าอะไรที่เป็นภัยคุกคามที่แท้จริงสำหรับเราทุกคน ศัตรูตัวจริงของเราคืออะไร และสิ่งใดคือผลประโยชน์ร่วมกันของเรา“
ทูตจีนยังตอบโต้ข้อกล่าวหาของนักการเมืองตะวันตกบางราย ที่กล่าวว่าจีนมีวาระทางการเมืองในการช่วยประเทศอื่นต่อสู้กับไวรัส พร้อมกล่าวว่า “นี่คือวิกฤตครั้งใหญ่ของพวกเราทุกๆ คน”
“สิ่งที่จะผลักดันการกระทำของเราในตอนนี้ คือเราต้องเข้าใจว่าเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน” “จีนจะปลอดภัยจากไวรัสไม่ได้เลย หากประเทศอื่นๆ ยังต้องดิ้นรนต่อสู้… ในแง่หนึ่ง เรากำลังช่วยเหลือตนเอง ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น“
“ผมไม่คิดว่าเป้าหมายของเราคือการเป็น ‘ผู้นำโลก‘ เพราะเราไม่เคยเชื่อว่าโลกควรจะมีผู้นำ เราเชื่อในความเท่าเทียมกันของทุกประเทศ” เขากล่าวพร้อมเสริมว่า “แน่นอนว่ามีบางประเทศที่มีอำนาจมากกว่า สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากกว่า และควรจะสร้างคุณประโยชน์ให้มากกว่า ซึ่งเราพร้อมจะทำเช่นนั้น"
“แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่เราต้องการคือการเคารพซึ่งกันและกัน การเคารพผู้อื่นอย่างแท้จริง รวมถึงการยอมรับว่าความแตกต่างระหว่างประเทศนั้นย่อมจะยังดำรงอยู่ต่อไป เราควรมองว่ามันคือที่มาของความหลากหลาย แทนที่จะมองว่าเป็นการเผชิญหน้าหรือความขัดแย้ง“
“ผมคิดว่าคนอื่นๆ จะยินดีรับความช่วยเหลือจากเรา และเรากำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อให้ความช่วยเหลือทั้งทางเทคนิคและเวชภัณฑ์ แบ่งปันประสบการณ์การรับมือกับไวรัสของเราให้ประเทศอื่น แต่เราเองก็บอกชัดเจนว่าเรารับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในประเทศจีน โดยยึดโยงกับสถานการณ์และเงื่อนไขของประเทศจีน"
“ดังนั้น สิ่งที่เรากำลังทำในจีน และได้ผลในจีน อาจจะไม่เหมาะสำหรับประเทศอื่น เราจึงบอกกับทุกคนว่า คุณต้องพัฒนากลยุทธ์ทั้งหมดโดยอิงกับเงื่อนไขต่างๆ ของประเทศ ที่จะใช้ได้ผลกับประเทศของคุณ" ชุยกล่าว