เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 ตามเวลาท้องถิ่น การประชุมครั้งที่ 43 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติจัดอภิปรายทั่วไปเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนเฉพาะประเทศ นายหลิว หวา ผู้แทนพิเศษทางด้านกิจการสิทธิมนุษยชนจีนประจำสหประชาชาติกล่าวว่า สิทธิมนุษยชนไม่ใช่สิทธิบัตรของประเทศส่วนน้อยบางประเทศ ยิ่งไม่ควรเป็นเครื่องมือใช้แทรกแซงการเมืองของประเทศอื่นหรือแสดงความเหนือกว่าของตน การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนนั้นไม่ได้มีเพียงแค่รูปแบบเดียว ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องยืนหยัดเดินหนทางที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของประเทศตน
นายหลิว หวาชี้ว่า ประเทศส่วนน้อยที่ประณามจีนอย่างไม่มีเหตุผล ก็มีสภาพสิทธิมนุษยชนที่ไม่ได้สวยงามเท่าไหร่ ประเทศเหล่านี้ยังมีปัญหาเรื่องเหยียดชนชาติกลุ่มน้อย ต่อต้านผู้อพยพที่นับวันรุนแรงยิ่งขึ้นทุกวัน มีคำพูดที่โกรธแค้นและการกระทำผิดกฎหมายที่เจาะจงผู้ลี้ภัยนับวันมากยิ่งขึ้นเหมือนกัน การปฏิบัติตามกฎหมายด้วยกำลังรุนแรงและการควบคุมขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้ง ประเทศเหล่านี้พูดจาแบบหนึ่ง แต่กระทำอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่ตั้งใจช่วยประเทศกำลังพัฒนาบรรลุการพัฒนาและสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่คิดใช้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง และเพียงต้องการเอา “ประชาธิปไตยแบบตะวันตก” บังคับใส่หัวคนอื่น
นายหลิวหวายังกล่าวว่า สำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซินเจียง ประเทศตะวันตกบางประเทศมองข้ามคำเชิญด้วยความจริงใจจากจีน ปฏิเสธไปเยือนซินเจียงด้วยเหตุผลต่างๆ และกลับแต่งเรื่องใส่ร้ายป้ายสีจีนอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายสิบประเทศแสดงความเห็นชอบกับนโยบายการบริหารซินเจียงของจีนและชื่นชมความเจริญก้าวหน้าทางสิทธิมนุษยชนของซินเจียงด้วยรูปแบบต่างๆ อย่างชัดเจน ในจำนวนนี้ มีประเทศสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลามรวมอยู่ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เคยไปเยือนซินเจียงมาแล้ว รัฐบาลจีนใช้มาตรการต่อต้านการก่อการร้ายและลดความหัวรุนแรงที่ซินเจียงตามระบบกฎหมายของจีน รวมถึงมีการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพ และได้รักษาความปลอดภัยในซินเจียงอย่างดี ให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของชนเผ่าต่างๆ ในซินเจียง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชนเผ่าต่างๆ โดยทั่วไป
สำหรับสถานการณ์ฮ่องกง นายหลิวหวาเน้นว่า การเดินขบวนแสดงพลังที่เกิดขึ้นที่ฮ่องกงนั้น ได้เกินขอบเขตการชุมนุมเชิงเสรีภาพไปไกล กลายเป็นเหตุการณ์ฝ่าฝืนกฎหมายด้วยกำลังรุนแรงอย่างสิ้นเชิง