"ชลบุรี” กลับมาพร้อมฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือนเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิ ยามที่โควิดคลี่คลายลง

ในเมืองคุนหมิงมีร้านอาหารไทยมากมายหลายแห่ง ส่วนมากมักจะตั้งชื่อว่า “ภูเก็ต” “พัทยา” หรือไม่ก็ “กรุงเทพ” แตกต่างกันไป ร้าน “ชลบุรีหรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาจีนว่า 春武里” ตั้งอยู่ที่ชุมชนป่านจู้ ถนนหงซานตงลู่ เมืองคุนหมิงคุณเบญ เจ้าของร้านอธิบายให้เราฟังว่า “เราเลือกที่จะใช้ชื่อร้านว่า “ชลบุรี” เพราะพวกเรามาจากจังหวัดชลบุรี ประเทศไทย”

เนื่องจากเหตุการณ์ระบาดโควิด-19 ทำให้ร้านอาหารของเบนซ์ได้รับผลกระทบต้องปิดกิจการอยู่ระยะหนึ่ง และเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลมณฑลยูนนานได้ประกาศให้ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ ร้าน “ชลบุรี” จึงได้เปิดร้านตามปกติอีกครั้ง

“สวัสดีครับ ตรงนี้มีน้ำยาฆ่าเชื้อ พี่ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อน แล้วค่อยรับสินค้านะครับ ตรงนี้คือมัสมั่นหมูที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ” เบญเจ้าของร้านซึ่งเป็นคนไทยใช้ภาษาจีนเตือนพนักงานเดลิเวอรี่ให้ล้างมือฆ่าเชื้อได้อย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับยื่นอาหารที่เตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยให้กับพนักงานฯ

ปัจจุบัน คุนหมิงสามารถป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างน่าทึ่ง ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารในเมืองค่อยๆ กลับมาเปิดกิจการเป็นปกติ “ตอนนี้ร้านเล็กๆ ของเราสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ แม้ว่าจะมีลูกค้าไม่มากเหมือนช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์โควิดแต่พวกเราก็มีออร์เดอส่งเดลิเวอรี่อยู่ตลอด” เบญกล่าวเขารับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โรคระบาดภายในเมืองคุนหมิงตั้งแต่ระยะรุนแรงจนกระทั่งโรคระบาดค่อยๆ คลี่คลายลง “การแพร่ระบาดของโรคส่งผลกระทบต่อทุกคน แต่ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองคุนหมิงดีขึ้นมากแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติแต่ยังคงต้องการสวมหน้ากากอนามัยต่อ นี่คือผลจากการที่ทุกคนร่วมกันต่อสู้กับโรคระบาด”

“ตอนที่สถานการณ์รุนแรง ทางเจ้าหน้าที่บริหารทรัพย์สินของชุมชนได้มาแจ้งพวกเราว่า ร้านอาหารของเราต้องปิดร้านร้านอาหารทุกร้านไม่สามารถเปิดบริการได้ เข้าและออกชุมชนต้องทำการสแกนรหัสสุขภาพ ออกนอกบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัย” เบญเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี เมื่อเผชิญกับโรคระบาด ทุกคนต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เช่นเดียวกับเจ้าของร้านอาหารอื่นๆ เขาได้ปิดร้านไปพักหนึ่ง

“ตอนนี้ เหตุการณ์ระบาดของโรคโควิดในประเทศจีนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ร้านอาหารสามารถขายเดลิเวอรี่ผ่านออนไลน์ซึ่งถือได้ว่าเป็น 'ห่วงชูชีพ' สำหรับธุรกิจร้านอาหารที่กำลังจะจมน้ำ” เบญกล่าวพร้อมถอนหายใจ 

ปัจจุบัน ยอดผู้ป่วยโรคโควิดที่ได้รับการยืนยันในประเทศไทยก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน รัฐบาลไทยได้ต่อสู้รับมืออย่างแข็งขัน โดยใช้มาตการต่างๆ เช่นประชาสัมพันธ์การฆ่าเชื้อ การใส่หน้ากากอนามัย สถานที่สาธารณะและธุรกิจประเภทร้านค้า สถานบันเทิง ต้องปิดตัวลงชั่วคราวผมเชื่อว่าคนไทยก็จะรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด” เบญเล่าว่าเพื่อนของเขาบางคนที่เดินทางจากประเทศไทยมาที่เมืองคุนหมิงกำลังกักตัวอยู่ในโรงแรม “เพื่อนๆ ที่กำลังกักตัวอยู่ในโรงแรมเมื่อพวกเขาอยากทานอาหารไทย ก็จะสั่งอาหารในกรุ๊ปแชท ผมก็จะส่งอาหารเดลิเวอรี่ไปให้ที่โรงแรม” เบญมีกลุ่มวีแชทซึ่งเป็นเพื่อนๆ คนไทยที่อาศัยอยู่ในคุนหมิง

ขณะที่ทำการสัมภาษณ์อยู่นั้น นักข่าวก็ได้พบกับหุ้นส่วนของเขา พุธิตา ชูวิทย์สกุลเลิศ นอกจากเป็นหุ้นส่วนกันแล้วทั้งคู่ยังเป็นแฟนกันด้วย ทั้งคู่เคยเรียนที่คุนหมิง “ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งคุนหมิง เอกวิชาภาษาจีนเพื่อการศึกษา ส่วนพุธิตาชูวิทย์สกุลเลิศเรียนจบจากมหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล เอกวิชาภาษาจีนเพื่อการศึกษา พวกเราชอบทำอาหารและก็ชอบเมืองคุนหมิงด้วยผมต้องการนำวัฒนธรรมอาหารไทยมาเผยแพร่สู่คนคุนหมิงให้มากขึ้น” ในสายตาของเบญและพุธิตา ชูวิทย์สกุลเลิศ ร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกและความฝันของทั้งคู่

ต้นไม้สีเขียว 2 ต้นบริเวณหน้าประตูร้านเต็มไปด้วยพลัง แสงแดดส่องผ่านประตูกระจกและหน้าต่างในร้านอาหารเล็กๆ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเมฆครึ้มแห่งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในเมืองคุนหมิงกำลังจะผ่านพ้นไป และ “ร้านชลบุรี” จะกลับมาต้อนรับฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง