ชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ต้องการสังคมกลับสู่ความสงบ

ช่วงค่ำวันที่ 1 กันยายน โฆษกรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงออกแถลงการณ์ประณามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำลายสิ่งของภายในสนามบินนานาชาติฮ่องกง และสถานีรถไฟใต้ดิน ช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้ใช้มาตรการต่างๆ ตามกฎหมาย เพื่อปราบปรามพฤติกรรมความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุม จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งแกนนำของกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงรวมกว่า 1,000 คน   

จนถึงวันนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกงยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว ส่งผลกระทบโดยตรงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฮ่องกงจำนวนกว่า 8 แสนคน ทำให้รายได้ในภาคธุรกิจ เช่น การท่องเที่ยว การค้าปลีก และธุรกิจอาหารภาคการบริโภคลดลงอย่างมาก บริษัท Morgan Stanley คาดว่าจีดีพีของฮ่องกงในไตรมาสที่ 3 จะลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว และอาจเป็นจีดีพีที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา   

ช่วงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ทำลายอุปกรณ์ในสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนฮ่องกงเป็นอย่างมาก 

การชุมนุมและการใช้ความรุนแรงที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานนั้นสร้างความเสียหายให้กับสังคมและเศรษฐกิจฮ่องกงอย่างมาก     

“ไข่มุกตะวันออก” และศูนย์กลางการเงินโลกกำลังกลายเป็นพื้นที่ก่อการจลาจลของกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง ดังนั้น การยุติความวุ่นวายและปราบจลาจล เพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยของฮ่องกงนั้น จึงเป็นเสียงเรียกร้องของประชาชนฮ่องกงส่วนใหญ่ ขณะนี้ รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง และผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพื่อปกป้องเสียงของคนส่วนใหญ่