ระหว่างวันที่ 21-26 มีนาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนประเทศอิตาลี โมนาโก และฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของผู้นำสามประเทศ การเยือนทวีปยุโรปครั้งนี้ นับเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำจีนในปี 2019 ซึ่งนายสี จิ้นผิงได้เป็นสักขีพยาน “ครั้งแรกในประวัติศาสตร์” หลายเรื่องด้วยกัน
ระหว่างการเยือนประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายจูเซปเป กอนเต (Giuseppe Conte) นายกรัฐมนตรีอิตาลีจัดการพบปะเจรจากัน ผู้นำทั้งสองประเทศร่วมเป็นสักขีพยานแห่งการลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการร่วมขับเคลื่อนงานรังสรรค์โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ระหว่างจีน-อิตาลี ทั้งนี้ ประเทศอิตาลีได้เป็นประเทศแรกในกลุ่ม G7 ที่ได้ลงนามกับประเทศจีน สนับสนุนโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”
ต่อจากนั้นในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง พบปะเจรจากับเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งโมนาโก นับเป็นการเยือนโมนาโกอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีจีน อันแสดงให้เห็นถึงแนวคิดของจีน ที่ปฏิบัติต่อประเทศต่างๆทั่วโลกไม่ว่าประเทศใหญ่หรือเล็ก อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันมาโดยตลอด
และเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ได้ร่วมพิธีปิดการประชุมว่าด้วยการบริหารจัดการทั่วโลกจีน-ฝรั่งเศส พร้อมกล่าวคำปราศรัยในหัวข้อ “อุทิศปัญญาและพลังเพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีงามยิ่งขึ้น” ก่อนจะพิธีปิดดังกล่าว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายฌอง โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปมีการจัดการพบปะสี่ฝ่าย ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จีนและฝรั่งเศสร่วมกันจัดประชุมการบริหารจัดการโลกและการพบปะสี่ฝ่าย
“ครั้งแรก” ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเยือนของนายสี จิ้นผิงครั้งนี้ ล้วนแสดงให้เห็นว่า จีน-ยุโรปกำลังมุ่งพัฒนาสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงสันติภาพ การเพิ่มพูน การปฏิรูป และเชิงอารยธรรมอย่างจริงจัง