เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีของไทย และประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอเกี่ยวกับประเด็นร้อนของการประชุมสองสภาในปีนี้ โดยชื่นชมการประชุมสองสภาปีนี้ของจีนเป็นอย่างมาก
โดยนายพินิจ กล่าวว่า ในฐานะประธานสภาวัฒนธรรม และส่งเสริมความสัมพันธ์ ไทย-จีน เขามักจะเดินทางไปมาระหว่างไทยกับจีน และได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของจีนอย่างชัดเจนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาสนใจเรื่องของจีนอย่างมาก และติดตามการประชุมสองสภาทุกปี
นายพินิจ กล่าวว่า ประเด็นที่ตนสนใจที่สุดคือประเด็นหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลในปีนี้ได้ระบุถึงหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหลายครั้ง และในการแถลงข่าวสองสภา ประเด็นหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นหนึ่งในประเด็นที่สื่อต่างชาติให้ความสนใจ ไทยเป็นประเทศรายทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง จึงสนใจประเด็นนี้เป็นพิเศษ
นายพินิจ กล่าวต่ออีกว่า สนใจประเด็นในเรื่องการขับเคลื่อนหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพราะตรงนี้จะทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ผลประโยชน์ จะทำให้ประชากรโลกมีรายได้ มีผลประกอบการ มีการค้าแบ่งปันกันทั่วโลก เพราะ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" เป็นยุทธศาสตร์ของความอยู่ร่วมกัน โดยการแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นยุทธศาสตร์ของโลกในวันนี้ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยและอาเซียนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการโลจิสติกส์เชื่อมโยงการขนส่งต่างๆ โครงการท่าเรือ โครงการสนามบิน และโครงการอุตสาหกรรมอิเล็กทรอกนิกส์ต่างๆ ที่จะมีความร่วมมือกัน ก็จะเป็นผลประโยชน์ของประเทศจีนและประเทศอาเซียนทั้งหมด
เมื่อระบุถึงอิทธิพลของเศรษฐกิจจีนที่มีต่อเศรษฐกิจโลก นายพินิจ กล่าวว่า การประชุมสองสภาเป็นหน้าต่างสำคัญที่รัฐบาลจีนแถลงผลงานการดำเนินงาน และนโยบายประเทศ นโยบายด้านเศรษฐกิจยิ่งเป็นที่จับตามองของทั่วโลก
จีนมีบทบาทต่อเศรษฐกิจโลก การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนที่ผ่านมา มีผลบวกต่อเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีนถือว่าเป็นเศรษฐกิจที่มีปริมาณการซื้อ หรือการบริโภคสูงมาก เพราะประเทศจีนมีประชากร 1,300 กว่าล้านคน และเป็นประชากรที่มีกำลังซื้อ มีฐานะมีรายได้มีเงินเพียงพอที่จะจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลก ในขณะที่ก็ต้องยอมรับประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีบทบาท เป็นประเทศที่มีฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่และสำคัญที่ส่วนช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจโลก มีบทบาทต่อการพัฒนาและการเคลื่อนไหวเศรษฐกิจของทั่วโลกเป็นอย่างมาก