“มณฑลกันซู่” เป็น “มณฑลใหญ่ด้านความยากจน” ของจีน ประชากรผู้ยากจนมีจำนวนมาก สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติก็ไม่ค่อยดี การขจัดความยากจนจึงดำเนินไปค่อนข้างยาก ช่วงบ่ายวันที่ 7 มีนาคมที่เพิ่งผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เข้าร่วมการประชุมพิจารณาตรวจสอบของคณะสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 จากมณฑลกันซู่ การช่วยเหลือผู้ยากจนกลายเป็นประเด็นสำคัญของผู้นำสูงสุดจีนกับบรรดาสมาชิกสภาฯ จากท้องถิ่น
ปีหลังๆ นี้ จำนวนประชากรผู้ยากจนของมณฑลกันซู่ลดลงจาก 2.56 ล้านคนของปี 2016 เหลือกว่า 1 ล้านคนในปัจจุบัน รายได้เฉลี่ยของประชากรผู้ยากจนมีประมาณ 5,390 หยวน
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า “งานแก้ไขปัญหาความยากจนทำได้ดีมาก แต่ปัจจุบันมีเวลาเหลือแค่ 2 ปีสำหรับการบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนโดยสิ้นเชิงก่อนปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่ลำบากและยากที่สุด เราต้องใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละไปจนถึงได้รับชัยชนะอย่างรอบด้าน ”
สำหรับงานแก้ไขความยากจนของรัฐบาลท้องถิ่น นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่า ต้องมีความมั่นใจอย่างไม่ลดละเช่นกัน มีความตั้งมั่นที่จะบรรลุสู่เป้าหมาย แก้ไขปัญหาอย่างไม่อ่อนข้อ ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างไม่ท้อแท้ ต้องทำงานอย่างขยันขันแข็งและเอาจริงเอาจัง
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า มาตรฐานของการพ้นจากความยากจนก็คือ ประชากรผู้ยากจนมีความเป็นอยู่ที่พอกินพอใช้ ได้รับการศึกษาขั้นบังคับ ได้รับการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน มีบ้านพักที่อยู่อาศัย การแก้ไขปัญหาความยากจน ต้องดำเนินการตามสภาพที่เป็นจริง แม้จำเป็นต้องยกมาตรฐานให้สูงขึ้น แต่ก็ห้ามทำปลอมในเรื่องนี้ และยิ่งไม่สามารถลดมาตรฐานให้ต่ำลงด้วย
นายสี จิ้นผิงยังกล่าวกับสมาชิกสภาฯ จากมณฑลกันซู่ว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนต้องยืนหยัดทิศทางที่ถูกต้อง ผลสำเร็จด้านการแก้ไขความยากจนต้องผ่านการทดสอบของประวัติศาสตร์ เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ และยิ่งไม่ควรสร้างผลงานการบริหารที่เป็นเท็จ เพราะว่าปัญหาเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของจีน ทำให้เราเกิดความสูญเสียได้รับบทเรียนอย่างยิ่งยวดมาแล้ว
“เมืองติ้งซี” ได้ชื่อว่าเป็นเขตที่มีประชากรผู้ยากจนจำนวนมากที่สุดของมณฑลกันซู่ และเป็นเขตที่มีภาระหน้าที่แก้ไขปัญหาความยากจนที่หนักหนาที่สุด ก่อนถึงวันตรุษจีนปี 2013 นายสี จิ้นผิงเคยเดินทางไปยังพื้นที่ชนบทที่ยากจนของเมืองติ้งซี พูดคุยกับประชาชนท้องถิ่น เพื่อเข้าใจสภาพที่เป็นจริง
ขณะตรวจสอบรายงานรัฐบาลของปีนี้ นายถัง เสี่ยวหมิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองติ้งซีกล่าวรายงานต่อนายสี จิ้นผิงว่า ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เมืองติ้งซีมีประชากรผู้ยากจนลดลงกว่า 600,000 คน หมู่บ้านหยวนกู่ตุยที่นายสี จิ้นผิงเคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนเมื่อหลายปีก่อนนั้น ปัจจุบันได้พ้นจากความยากจนทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว
นายสี จิ้นผิงได้ชี้แนะว่า ต้องให้ความสำคัญต่อเสียงที่ประชาชนสะท้อนออกมา อย่างเช่น เป็นเพียงภาพความสำเร็จปลอมระหว่างการแก้ไขความยากจนหรือไม่ เป็นต้น ควรยกระดับคุณภาพด้านการแก้ไขปัญหาความยากจนให้สูงขึ้น นายถัง เสี่ยวหมิงกล่าวว่า นี่เป็นคำเตือนสำหรับข้าราชการท้องถิ่น ที่แสดงให้เห็นว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดการกับปัญหาการสร้างภาพความสำเร็จจอมปลอมระหว่างการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเด็ดขาดแบบไม่อ่อนข้อด้วย