เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ได้พบปะกับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่บ้านพักรับรองของทางการจีน “เตียวหยูไถ” ในกรุงปักกิ่ง เพื่อเรียกร้องให้มีการสร้างชุมชนแห่งอนาคตที่มีการวางยุทธศาสตร์ร่วมกัน
สี จิ้นผิงได้กล่าวชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมกล่าวถึงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการครบรอบ 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
เขากล่าวว่าความร่วมมือทวิภาคีในโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ ได้สร้างผลลัพธ์ที่เกิดประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งสองประเทศยังคงสื่อสารและประสานงานอย่างใกล้ชิดในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับกัมพูชาเพื่อสร้างชุมชนแห่งอนาคตที่มีการวางยุทธศาสตร์ร่วมกัน จัดลำดับความสำคัญของความร่วมมือด้านต่าง ๆ ในอนาคต จัดทำร่างพิมพ์เขียวเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้ไปสู่ขั้นใหม่ที่สูงยิ่งขึ้น สี จิ้นผิงกล่าว
สี จิ้นผิงคาดว่า ทั้งสองประเทศจะร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือในสี่ด้านที่สำคัญ อันประกอบไปด้วย การเมือง เศรษฐกิจความปลอดภัย และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน
นอกจากนี้ สี จิ้นผิงยังเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศรักษาการแลกเปลี่ยนระดับสูง เสริมสร้างการแบ่งปันประสบการณ์ด้านการกำกับดูแล ขยายการแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาล หน่วยงานด้านกฎหมาย พรรคการเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารและการประสานงานที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ภายในกลไกพหุภาคี เช่น สหประชาชาติ ความร่วมมือจีน-อาเซียน และความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง
ด้านนายกฯฮุนเซน ก็ได้กล่าวแสดงความยินดีกับชาวจีนในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่กว่า 10 ปีที่ผ่านมาของการปฏิรูปและเปิดประเทศ ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เขายังได้แสดงความขอบคุณต่อประเทศจีนที่ให้การสนับสนุนกัมพูชาอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว รวมถึงการให้ความช่วยเหลือที่มีคุณค่า เช่นเดียวกับความเป็นมิตรที่มีให้แก่กัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ราชวงศ์ของกัมพูชา
นายกฯฮุนเซนกล่าวยืนยันว่ากัมพูชาพร้อมจะให้การสนับสนุนโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ร่วมกับจีน เพิ่มระดับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คน การเกษตร การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เสริมสร้างความเข้มแข็งของการบังคับใช้กฎหมายและความร่วมมือด้านความปลอดภัย จะเพิ่มระดับการติดต่อสื่อสารและการประสานงานในกิจการระหว่างประเทศและภูมิภาค อีกทั้งจะให้ความเข้าใจและสนับสนุนซึ่งกันและกันต่อไปในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของพวกเขา