เดินเล่นในสวนสาธารณะ AI แห่งแรกของโลก

สวนสาธารณะไห่เตี้ยนเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2546 นับเป็นสวนสาธารณะที่ชาวปักกิ่งนิยมชมชอบแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้เขตไห่เตี้ยนกรุงปักกิ่งได้ร่วมมือกับบริษัทไป่ตู้พลิกโฉมสวนแห่งนี้ให้กลายเป็นสวนสาธารณะ AI แห่งแรกของโลกและได้กลายเป็นสถานที่สุดฮอตที่ทั้งหนุ่มสาวและผู้สูงอายุแชร์ต่อกันในโลกโซเซียลอย่างรวดเร็ว

สแกนใบหน้าตอกบัตรและบันทึกการออกกำลังกาย

เมื่อเดินเข้าประตูทิศตะวันออกของสวนสาธารณะ สาวน้อยแซ่หลี่ก็เดินตรงไปยังจุดเริ่มต้นของลู่วิ่ง "ตรงนี้มีกล้อง Webcam เห็นไหม ส่วนตรงนี้ยังมีสัญลักษณ์บอกว่าเป็นเขตถ่ายรูป" เธอพูดไปพร้อมกับชี้มือไปเหนือศรีษะและชี้ลงที่เท้า "สแกนใบหน้าตรงนี้ระบบก็จะรู้แล้วว่าฉันมาตอกบัตรแล้วนะ ก็จะเริ่มบันทึกสถิติการออกกำลังกายของฉัน เริ่มจับเวลาแล้ว ฉันต้องเริ่มวิ่งแล้วละ" พูดจบ เธอก็เริ่มต้นวิ่งทันที

ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า มีคนมาสแกนใบหน้าเพื่อตอกบัตรจำนวนไม่น้อยเลยมีทั้งคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุ  หากเข้าประตูทิศตะวันออกแล้วเลี้ยวซ้ายจะเห็นจอดิจิทอลแสดงผลสถิติต่างๆ เช่น เวลาการวิ่งต่อรอบ เวลาออกกำลังกายรวม จัดอันดับสถิติการออกกำลังกาย ฯลฯ  ในบรรดาผู้คนที่มาตอกบัตรมีคุณยายท่านหนึ่งทำสถิติออกกำลังกายรวมมากถึง 539 นาที 49 วินาทีในรอบหนึ่งสัปดาห์

ติงจื่อหยางผู้จัดการฝ่ายนวัตกรรมของไป่ตู้เล่าว่า "ลู่วิ่งอัจฉริยะอาศัยเทคโนโลยีจำแนกใบหน้าของไป่ตู้ทำให้ใบหน้าของผู้คนกลายเป็นเสมือนกุญแจเพื่อบันทึกสถิติการออกกำลังกายต่างๆ นี่ถือเป็นการพิสูจน์การใช้เทคโนโลยีจำแนกใบหน้าในสถานที่ออกกำลังกายจริง" ปัจจุบันระบบการจำแนกใบหน้าของไป่ตู้มีความแม่นยำสูงถึง 99.77%

จองรถรับส่งไร้คนขับฟรี

ถ้าจะบอกว่าอะไรในสวนสาธารณะ AI ที่ได้รับความนิยมสูงสุด นั่นก็คือมินิบัสไร้คนขับ Apollo ซึ่งมีลักษณะหัวท้ายทรงกลมสีน้ำเงิน ถือเป็นรถบัสไร้คนขับรุ่น L4 ที่ผลิตจำนวนมากครั้งแรกของโลก โดยเป็นความร่วมมือระหว่างไป่ตู้กับรถบัสKing Long ทั้งนี้ รถรุ่น L4 สามารถขับเคลื่อนแบบไร้คนควบคุมได้เองทั้งหมดโดยอัตโนมัติ หากใครสนใจอยากลองสัมผัสกับรูปแบบการเดินทางของโลกในอนาคต คงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะต้องไปยังสวนสาธารณะไห่เตี้ยน

ปัจจุบัน เส้นทางเดินรถของมินิบัส Apollo ภายในสวนสาธารณะไห่เตี้ยนถูกกำหนดขึ้นล่วงหน้า แบ่งเป็นสองจุด คือ ที่ประตูตะวันตกและที่สวนสนุกระยะทางวิ่งประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

จากการแนะนำของติง จื่อหยาง มีการติดตั้งเครื่องเซนเซอร์หลายประเภทบนตัวรถ Apollo ซึ่งคล้ายกับเป็นดวงตาของคน สามารถประมวลผลสถานการณ์โดยรอบทั้งสี่ทิศได้แบบทันที

(Real Time) นอกจากนั้น สมองกลกับศูนย์ควบคุมคอมพิวเตอร์บนตัวรถที่วิจัยและพัฒนาขึ้นโดยไป่ตู้เอง จะรับรู้ข้อมูลโดยรอบได้แบบทันที จึงกำหนดทิศทางเดินรถได้อย่างแม่นยำเหมาะสม

พร้อมทั้งคาดการณ์พฤติกรรมของผู้คนและรถยนต์บริเวณรอบๆ เพื่อควบคุมการหยุดรถการหักหลบได้อย่างอัจฉริยะ

ระบบโต้ตอบอัจฉริยะภายในศาลา

สวนสาธารณะ AI ยังมีไฮไลท์ที่น่าสนใจอีกจุด ภายนอกดูเป็นศาลานั่งพักผ่อนหย่อนใจ แต่แค่ลองพูดว่า "เสี่ยวตู้ เสี่ยวตู้" ก็จะเป็นการเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ เช่น หากพูดว่า "เสี่ยวตู้ เสี่ยวตู้เปิดเพลงเต้นระบำกลางสวน" ก็จะมีเสียงตอบรับว่า "เปิดอัลบั้มเพลงเต้นระบำกลางสวน" หากเหงาๆ คนเดียว ก็สามารถนั่งคุยเล่นกับศาลานี้ได้ สอบถามสภาพอากาศ สอบถามอาหารอร่อยแถวๆ นั้น หรือแม้แต่ให้เสี่ยว ตู้เล่าเรื่องขำขันให้ฟัง

แม้ว่าจะดูเหมือนพูดคุยอยู่กับอากาศ แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่โต้ตอบอยู่กับนักท่องเที่ยวก็คือ ระบบปฏิบัติการโต้ตอบ AI ที่ชื่อว่า DuerOS ซึ่งเป็นระบบ AI ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของไป่ตู้

"อาศัยระบบ DuerOS เพื่อแยกแยะเสียงและจัดการกับภาษาตามธรรมชาติเมื่อผนวกรวมกับฐานข้อมูลและระบบบริการขนาดใหญ่ของไป่ตู้จึงทำให้ศาลาแห่งนี้กลายเป็นลำโพงอัจฉริยะเสี่ยวตู้ขนาดใหญ่นั่นเอง" ติงจื่อหยางลองคิดๆ ดูแล้ว "อย่าเห็นว่าเป็นแค่ศาลาแห่งหนึ่งเบื้องหลังมีระบบการสืบค้นด้วยภาษาจีนที่ไป่ตู้สั่งสมมากว่าสิบปียังมีทรัพยากรเสียงจากแอพพลิเคชันหลายตัวในเครือไป่ตู้ได้แก่เสียงเพลง QQ วิทยุแมลงปอ FM คนขี้เกียจฟังหนังสือ ฯลฯ"

ขณะเดียวกันภายในสวนสาธารณะยังมีอุปกรณ์อัจฉริยะอีกหลายอย่างอาทิหุ่นยนต์ไป่ตู้ที่ได้รับความชื่นชอบจากเด็กๆ อย่างมากแท่นเปียโนที่บรรเลงเพลงด้วยการเหยียบครูสอนรำไทเก๊กที่ใช้วิธีประมวลการเคลื่อนไหวของแขนขาและร่างกายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัจฉริยะและตู้รับฝากของด้วยระบบสแกนใบหน้า ฯลฯ ซึ่งรอคอยให้นักท่องเที่ยวไปค้นพบและลองสัมผัส