นักแปลนำบทประพันธ์ล้อมเมืองและนักเขียนจีนแนะนำให้กับชาวเมียนมา

2019-10-16 16:01:37 |แหล่งที่มา: Mekong Magazine

รุ่นคุณพ่อทำธุรกิจ สมัยเป็นนักเรียนก็เป็นนักเรียนชั้นหัวกะทิ หลังเขาจบการศึกษาด้านการแพทย์ เขาก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการแปลจนกระทั่งลาออกจากการเป็นแพทย์ในที่สุด เมื่อนักเขียนชาวจีน โม่ เหยียนได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม เขาก็กำลังแปลผลงานของ โม่ เหยียนอยู่พอดี...

Du Guangmin ในฐานะนักแปลยุค 80 ยุคใหม่ ในระยะเริ่มแรกเขาได้นำนวนิยายเรื่อง “ล้อมเมือง” มานำเสนอให้กับผู้อ่านชาวเมียนมา คนในเมืองอยากหลบหนีออกไปข้างนอก ส่วนคนนอกเมืองก็อยากเข้ามาในเมือง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการแต่งงานหรือชีวิตการทำงาน ล้วนแต่เป็นเช่นนี้ ภาษาจีนในสไตล์อารมณ์ขันถูกแปลออกมาโดย Du Guangmin นอกจากนี้ เขายังได้สอดแทรกข้อคบคิดและสัจธรรมให้กับผู้อ่านชาวเมียนมาอีกด้วย

กองหนังสือที่เก่าคร่ำคร่า... กองหนังสือคลาสสิกชิ้นเอกที่ทันสมัย... เมื่อเข้ามาในบ้านของนักแปลชาวเมียนมา Du Guangmin นั้น ก็เหมือนกับการเดินเข้าไปในมหาสมุทรแห่งหนังสือ ชั้นวางหนังสือขนาดเล็กที่เก่าแก่เต็มไปด้วยวรรณคดีจีนที่เขาแปล เช่น "เขาเปลี่ยนประเทศจีน : ประวัติของเจียงเจ๋อหมิน" “กวีนิพนธ์” “ล้อมเมือง” เป็นต้น

Du Guangmin สนใจวรรณคดีและวัฒนธรรมจีนมาตั้งแต่เด็ก วิธีการเรียนภาษาจีนของเขานั้น เขามักไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดอ่านอยู่บ่อยๆ เขาพบว่าการอ่านหนังสือภาษาจีนมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาภาษาจีน และวรรณกรรมจีนยังได้เปิดประตูที่น่าสนใจในช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขาอีกด้วย

ในช่วงที่เขาเรียนมหาวิทยาลัยเขาได้อ่านนวนิยายเรื่องล้อมเมืองของ Qian Zhongshu เนื้อเรื่องได้กล่าวถึงชีวิตสมรสซึ่งเปรียบเสมือนการล้อมเมืองคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า เขาจดจำประโยคนี้ได้อย่างลึกซึ้งและนี่ยังทำให้เขามีความคิดที่จะแปลนวนิยายเรื่องล้อมเมือง

หลังจากที่เขาเรียนจบ เขากลายเป็นหมอและใช้เวลาว่างของเขาในการแปลนวนิยายล้อมเมือง “การแปลวรรณกรรมจีนสมัยใหม่ทำให้ผมได้รับรู้ชีวิตของคนจีนและเรียนรู้เกี่ยวกับอารมณ์และความเศร้าโศกของพวกเขา” เขากล่าว

ในปี 2009 งานแปลเรื่องล้อมเมืองของ Du Guangmin ถูกตีพิมพ์ในเมียนมาและได้รับความสนใจจากผู้อ่านอย่างคับคั่ง "ในระยะแรกการแปลนวนิยายเป็นเพียงงานอดิเรกของผม ตอนนี้ หากผมได้อ่านผลงานวรรณกรรมที่ผมชื่นชอบแล้ว ผมก็มีความคิดอย่างแรงกล้าที่จะแปลมันออกมาเพื่อแบ่งปันให้กับผู้อ่านให้ได้รับรู้ถึงเสน่ห์ของวรรณกรรมจีนยุคใหม่” หลังจากที่เขาได้ทบทวนตรึกตรองแล้ว สุดท้ายเขาได้ลาออกจากการเป็นหมอและกลายเป็นนักแปลอิสระ

Du Guangmin ชื่นชอบผลงานของนักเขียนชาวจีน โม่ เหยียนเป็นอย่างมากผลงานชิ้นแรกของโม่ เหยียนที่เขาแปลคือ "กบ" มันเป็นเรื่องบังเอิญที่เมื่อเขาเริ่มแปล "กบ" อยู่นั้น โม่ เหยียนได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมประจำปี 2012 พอดีหลังจากที่ "กบ" เวอร์ชั่นเมียนมาถูกตีพิมพ์ในปี 2013 ทำให้มีผู้อ่านชาวเมียนมาชื่นชอบ โม่ เหยียนมากขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อให้ผู้อ่านพม่าได้มีโอกาสอ่านวรรณกรรมโม่ เหยียนมากขึ้น Du Guangmin จึงได้แปลผลงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ตระกูลหงเกาเหลียง ความเหนื่อยล้าของชีวิตและความตาย ฯลฯ ผมแปลหนังสือเรื่องความเหนื่อยล้าของชีวิตและความตายเป็นเวลา 44 เดือน 3 วัน "การแปลจะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศเป้าหมาย และยังต้องซื่อสัตย์ต่อเนื้อหาของงานต้นฉบับ และต้องแปลออกมาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความเคยชินของคนในประเทศของเราด้วย" นี่คือแนวทางการแปล Du Guangmin 

บนชั้นวางหนังสือคลาสสิกขนาดเล็กนั้น มีรางวัลซึ่งไม่ค่อยโดดเด่นสองรางวัลวางอยู่ ได้แก่ รางวัลวรรณกรรมแห่งชาติเมียนมาปี 2008 และรางวัลผลงานพิเศษหนังสือจีนประเภทความสำเร็จของเยาวชน ในวันปกติพวกมันจะกองรวมกลุ่มกับหนังสือต่างๆ และมันได้ล้อมรอบชีวิตประจำวันของ Du Guangmin เข้าไว้ด้วยกัน...

滇ICP备 09002441号
中华人民共和国国务院新闻办公室 支持指导
云南省人民政府新闻办公室 主办
云南日报报业集团 承办
本网站由云桥网版权所有,未经授权禁止复制或建立镜像
Copyright ©yunnangateway.com All Rights Reserved since 2006