เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (16 ม.ค.) สหพันธ์เมืองท่องเที่ยวโลกและศูนย์วิจัยด้านการท่องเที่ยวของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนได้เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ประเทศจีนติดอันดับ 2 ของประเทศที่มีรายรับมากที่สุดในโลก เป็นรองแค่ประเทศสหรัฐอเมริกา และสามารถรักษาอันดับนี้ไว้ได้นานติดต่อกันถึงปีที่ 7 แล้ว นับตั้งแต่ปี 2012 อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงรั้งอันดับนี้ต่อไปได้อีกปี
เศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความผันผวนเล็กน้อย โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา รายรับจากการท่องเที่ยวทั่วโลกมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.34 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 169.27 ล้านล้านบาท) ถือเป็นสถิติการเติบโตที่ช้าลงกว่าปีก่อน
ปริมาณนักท่องเที่ยวทั่วโลกเติบโตขึ้นร้อยละ 5 มาอยู่ที่ 1.21 หมื่นล้านคนในปี 2018 และเป็นที่คาดการณ์กันว่าจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5.5 ในปีนี้ ส่วนรายรับจากการท่องเที่ยวทั่วโลกในปี 2019 นี้ก็เป็นที่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 5.54 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 175.72 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของ GDP โลก
ในรายงานยังระบุอีกว่า 5 อันดับประเทศที่มีรายรับจากการท่องเที่ยวสูงสุดของโลก มีรายรับทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 80 จากรายรับด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกเลยทีเดียว โดยสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักรครอง 5 อันดับแรกติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2012
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่ารายรับจากการท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2013 ถึง 2017 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศจีนยังคงมีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และมูลค่าการบริโภคต่อคนที่เพิ่มขึ้น