อ้างอิงรายงานจากอีมาร์เกตเตอร์ (eMarketer) บริษัทวิจัยการตลาดสัญชาติอเมริกัน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธ (23 ม.ค.) ระบุว่า “จีนอาจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นเป็นตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2019”
รายงานคาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกสุทธิของจีนจะเติบโต 7.5 เปอร์เซ็นต์ แตะหลัก 5.636 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2019 ขณะของสหรัฐฯ จะเติบโต 3.3 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 5.529 ล้านล้านดอลลาร์
อีมาร์เกตเตอร์ชี้ว่าการผลิดอกออกผลอย่างงอกงามของยอดค้าปลีกแดนมังกร เป็นผลลัพธ์จาก “รายได้” ที่เพิ่มสูงขึ้น กอปรกับความเจริญก้าวหน้าของวงการอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ของจีน
“หลายปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคในจีนมีรายได้เพิ่มขึ้น หลายล้านชีวิตเขยิบสู่การเป็น ‘ชนชั้นกลาง’ รุ่นใหม่” โมนิกา เพิร์ต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการคาดการณ์ของอีมาร์เกตเตอร์กล่าว “ทำให้มีอำนาจซื้อและการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงขึ้น”
อนึ่ง สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า “อีคอมเมิร์ซ” เป็นขุมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจค้าปลีกของจีน คิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในห้าของยอดค้าปลีกทั้งหมดของประเทศในปี 2018
ตัวอย่างเช่นมหกรรมการช้อปปิ้งวันคนโสดของจีน (Singles Day) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอย่างอาลีบาบา (Alibaba) กวาดยอดขายกว่า 10,000 ล้านหยวน (มากกว่า 50,000 ล้านบาท) ภายในเวลาแค่ 2 นาที
ขณะยอดขาย ‘ตลอด 24 ชั่วโมง’ ของเทศกาลช้อปปิ้งไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday) และแบล็กฟลายเดย์ (Black Friday) ของสหรัฐฯ รวมกันอยู่ที่ 31,460 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.006 ล้านล้านบาท) เท่านั้น