สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน นางเผิง ลี่หยวน ภริยาประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เข้าร่วมการประชุมป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ระหว่างจีน-แอฟริกา ภายใต้หัวข้อ “จีน-แอฟริการ่วมกันต่อต้านโรคเอดส์ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีงาม” และได้ร่วมกับภริยาของประมุขหรือหัวหน้ารัฐบาลจาก 37 ประเทศในแอฟริกาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับความคิดริเริ่มในการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ระหว่างจีน-แอฟริกา
โดยนางเผิง ลี่หยวนได้กล่าวปราศรัยแสดงความยินดีที่ประเทศในแอฟริกาประสบความสำเร็จในการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ เธอยังได้บรรยายสรุปความคืบหน้าและประสบการณ์ของจีนในด้านนี้ และได้แนะนำการปฏิบัติหน้าที่ของเธอในฐานะทูตสันถวไมตรีองค์การอนามัยโลกเพื่อรณรงค์ให้คนทั่วโลกป้องกันการติดเชื้อวัณโรค และโรคเอดส์
นางเผิง ลี่หยวน กล่าวว่า ปัจจุบัน การดำเนินความร่วมมือในการต่อต้านโรคเอดส์ได้กลายเป็นความเห็นพ้องกันของคนทั่วโลก ความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาในด้านนี้ได้ประสบความสำเร็จที่น่าพอใจ การประชุมสุดยอดภายใต้กรอบฟอรั่มความร่วมมือระหว่างจีน-แอฟริกาที่จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่งครั้งนี้ สร้างโอกาสสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ให้แก่การลงลึกความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายในด้านต่าง ๆ รวมทั้งการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ด้วย
นายเผิง ลี่หยวนแถลงว่า จีนจะร่วมมือกับประเทศในแอฟริกา และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการรณรงค์ให้เยาวชนจีน-แอฟริกาตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ และโครงการส่งเสริมสุขภาพในชุมชน เพื่อเพิ่มการสนับสนุนการป้องกันและรักษาโรคเอดส์ของประเทศในแอฟริกา โดยถือกลุ่มเยาวชนในประเทศเหล่านี้เป็นเป้าหมายหลัก โครงการดังกล่าว จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2019 ดำเนินการเป็นเวลา 3 ปี โดยจะร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ ให้ความรู้ด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกาดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ เพิ่มจิตสำนึกและความสามารถของทั่วทั้งสังคมในการป้องกันโรคเอดส์ ช่วยเหลือประเทศในแอฟริกาบรรลุเป้าหมายที่จะขจัดโรคเอดส์ให้หมดไปก่อนสิ้นปี 2030 ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของแอฟริกา
ตามปฏิญญาการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศบริคส์ครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้น ณ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มประเทศบริคส์จะเสริมความร่วมมือในการวิจัยวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคเอดส์ได้ โดยจะร่วมกันสร้างศูนย์วิจัยวัคซีนนี้ นางเชปโพ มอตเซเป ภริยาประธานาธิบดีประเทศแอฟริกาใต้กล่าวว่า การสร้างศูนย์วิจัยดังกล่าวย่อมจะมีส่วยช่วยต่อการป้องกันและรักษาโรคเอดส์
ด้านนายเทโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างจีนและองค์การอนามัยโลกมีความสำคัญยิ่ง เพราะความร่วมมือนี้จะทำให้พวกเราสามารถบรรลุเป้าหมายขจัดโรคเอดส์ให้ได้ก่อนสิ้นปี 2030 ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้
นายเทโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ยังกล่าวอีกว่า ถึงแม้เราได้ประสบความสำเร็จในการกระบวนการต่อต้านโรคเอดส์อย่างมากแล้ว แต่ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะต้องก้าวย่างต่อไป เราจึงต้องร่วมกันใช้ความพยายามต่อไป