การประชุมการเชื่อมโยงสารสนเทศจีน-อาเซียน ครั้งที่ 3 ซึ่งร่วมกันจัดโดยสำนักงานสารสนเทศอินเตอร์เน็ตแห่งชาติ คณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศ และรัฐบาลประชาชนเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกว่างซี จะจัดขึ้นที่เขตกว่างซีตั้งแต่วันที่ 12-18 กันยายนนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐบาล นักธุรกิจ ผู้นำด้านการพาณิชย์ นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญของทั้งจีนและประเทศอาเซียนกว่า 2,000 คนเข้าร่วม การประชุมจะมีการเสวนาระดับสูงเกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือทางเทคโนโลยี การบริการเศรษฐกิจและการค้า ตลอดจนการใช้สารสนเทศร่วมกัน และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและบุคคลากรระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การหมุนเวียนทางการเงิน และการเชื่อมโยงกันทางจิตใจระหว่างประชาชน
ประเด็นหลักของการประชุมครั้งนี้ คือ “ร่วมกันสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัล ใช้เศรษฐกิจดิจิทัลร่วมกัน” การประชุมหลักแบ่งออกเป็นวงหารือ 9 กลุ่มย่อย ได้แก่ การประชุมเศรษฐกิจดิจิทัล การประชุมเทคโนโลยี 5G และการประยุกต์ใช้ การประชุมการพัฒนาวัฒนธรรมทางอินเตอร์เน็ต การประชุมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการประยุกต์ใช้ดาวเทียม การประชุมอีคอมเมิร์ซ การประชุมความร่วมมืออุตสาหกรรมเส้นทางสายไหมดิจิทัล การประชุมเมืองอัจฉริยะ การประชุมการพัฒนาและประดิษฐ์คิดค้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่ และการประชุมสุดยอดโลจิสติกทั่วโลกหวาเหว่ย
นอกจากนี้ยังมีการแสดงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ซึ่งการประชุมหลัก และการประชุมกลุ่มย่อย 7 เวที รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล ตลอดจนการแสดงและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G จะจัดที่โรงแรมหนานหูหมิงตู ในเมืองหนานหนิง ระหว่างวันที่ 12-14 กันยายนนี้ ส่วนการประชุมการพัฒนาและดิษฐ์คิดค้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่ จะจัดในเมืองเป่ยไห่ ในวันที่ 14 กันยายนนี้ ขณะที่การประชุมสุดยอดโลจิสติกทั่วโลกหวาเหว่ย จะจัดขึ้นในเมืองกุ้ยหลินในวันที่ 18 กันยายนนี้
นายจิน ฮ่วาหลุน ผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศอินเตอร์เน็ต เขตปกครองตนชนชาติจ้วงกว่างซี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้พยายามทำให้มีลักษณะเป็นสากลมากขึ้น มีเนื้อหามากขึ้น และมีรูปแบบใหม่ สร้างเป็น “การประชุมฉบับอัพเดต” กล่าวโดยรวมแล้ว การประชุมครั้งนี้มีลักษณะเน้นในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล มีลักษณะเน้นส่วนภูมิภาคอย่างเด่นชัด ผู้ที่เข้าร่วมงานภายในประเทศมีระดับสูง มีเนื้อหาหลากหลายยิ่งขึ้น และจะประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีจากกระทรวงวัฒนธรรมของไทย กระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย กระทรวงสารนิเทศ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของสปป.ลาว กระทรวงการสื่อสาร กระทรวงการค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย กระทรวงการคมนาคมและการสื่อสารของพม่า ตลอดจนกระทรวงการสื่อสารและสารนิเทศของสิงคโปร์จะเข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ตัวแทนจากธุรกิจและองค์กรที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น บริษัทควอลคอมม์ ของสหรัฐฯ และสถาบันสารสนเทศแห่งชาติอินเดียจะเข้าร่วมงานนี้ด้วย
นอกจากการประชุมหลักแล้ว การประชุมกลุ่มย่อยทางวิชาการ 9 รายการ จะดำเนินการแลกเปลี่ยนใน 9 ด้าน ได้แก่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G เศรษฐกิจดิจิทัล วัฒนธรรมอินเตอร์เน็ต การประยุกต์ใช้ดาวเทียม และเมืองอัจฉริยะ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G จะอภิปรายถึงในยุคแห่งการเชื่อมต่อทางเครือข่ายแบบ 5G การเชื่อมโยงต่อทุกสิ่งทุกอย่าง และการเชื่อมโยงแบบอัจฉริยะจะส่งผลกระทบต่อการปฏิรูปและสร้างโอกาสสำคัญต่อการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาเศรษฐกิจ การใช้ชีวิตในสังคมและการสร้างสรรค์เส้นทางสายไหมแบบดิจิทัล การสาธิตและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ประกาศ “พิมพ์เขียวใหม่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัล 5G ในยุคใหม่” การประชุมวัฒนธรรมอินเตอร์เน็ตจะเน้นปัจจัย “วัฒนธรรม + เทคโนโลยี” จากแง่มุมที่ต่างกัน อภิปรายช่องทางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางอินเตอร์เน็ตระหว่างจีนกับอาเซียน ส่วนการประชุมเมืองอัจฉริยะจะอภิปรายถึงประสบการณ์การสร้างเมืองอัจฉริยะ และประชาสัมพันธ์รูปแบบการสร้างเมืองอัจฉริยะที่ทันสมัย