วันที่ 10 เมษายน ฟอรั่มเอเชียโป๋เอ๋าปี 2018 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดงาน โดยได้ประกาศมาตรการสำคัญ 4 ข้อเพื่อขยายการเปิดประเทศ คือ 1. การขยายการอนุมัติเข้าสู่ตลาดให้มากยิ่งขึ้น 2. การสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดีมากขึ้น 3. การยกระดับการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และ 4. เพิ่มการนำเข้า นายสี จิ้นผิงเ ชื่อว่า จะเป็นหน้าใหม่ของการเปิดประเทศของจีน
ปีนี้เป็นครบรอบ 40 ปีที่จีนเปิดประเทศสู่โลก ในปราศรัยว่าด้วย “การเปิดกว้างให้มีความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน พัฒนาด้วยความคิดสร้างสรรค์”นายสี จิ้นผิง ได้สรุปความสำเร็จและประสบการณ์ที่สำคัญของการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน พร้อมชี้ให้เห็นว่า การปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ ครั้งที่สองที่ทรงอิทธิพลต่อจีนและทั่วโลก
“การเปิดกว้างสู่ภายนอกของจีน ได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นประเทศใหญ่ การพัฒนาของจีน เปลี่ยนจากการนำเข้าสู่การก้าวออก จากการเข้าร่วมองค์การการค้าโลก สู่การสร้างสรรค์โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” สร้างประโยชน์ที่สำคัญในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจ ของเอเชียและวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ รวมทั้งสัดส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลกให้เกิน 30% ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี จนกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก และได้ส่งเสริมการพัฒนารวมถึงสันติภาพของมนุษยชาติ ทั้งนี้ การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นการปฏิวัติครั้งที่ 2 ของประเทศจีน ได้นำการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในประเทศและทรงอิทธิพลต่อทั่วโลกอย่างมีความหมาย ”
ในโลกที่มีความซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงนี้ สังคมมนุษย์จะพัฒนาอย่างไร อนาคตของเอเชียจะเป็นอย่างไร นายสี จิ้นผิง ได้ตอบคำถามดังกล่าว และชี้ให้เห็นว่า การร่วมมืออย่างสันติ การเปิดกว้างเข้าหากัน และนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลง เป็น 3 กระแสหลักของโลกในทุกวันนี้
“เริ่มต้นที่สอดคล้องกับแนวโน้มทางประวัติศาสตร์ และการส่งเสริมความเป็นอยู่ของมนุษย์ ข้าพเจ้าเสนอข้อริเริ่มผลักดันการสร้างประชาคมร่วมทุกข์ร่วมสุข และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านต่างๆ กับฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง ดีใจที่ได้เห็นว่า ข้อริเริ่มข้อนี้ ได้รับการต้อนรับและยอมรับจากประชาชนและประเทศมากขึ้น และถูกเขียนลงในเอกสารสำคัญของสหประชาชาติ ข้าพเจ้าหวังว่า ประชาชนของแต่ละประเทศจะได้ทำงานร่วมกัน จับมือกัน ผลักดันการสร้างประชาคมร่วม สร้างเอเชียและโลกที่มีความสันติภาพ ความสงบ ความเจริญรุ่งเรือง ที่งดงาม ”
นายสี จิ้นผิงยังเน้นว่า ในอนาคต ทุกประเทศควรเคารพซึ่งกันและกัน สร้างความสัมพันธ์ที่เสมอภาค มีการเจรจาและปรึกษา รับผิดชอบร่วมกัน ทำงานด้วยกัน มีความร่วมมือที่จะได้รับชัยชนะร่วมกัน มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน มีความสามัคคีและเคารพความแตกต่างซึ่งกันและกัน มีความเกรงใจธรรมชาติ รักโลกใบนี้
ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ที่จัดขึ้นเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว ประกาศสังคมนิยมที่มีลักษณะจีนเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า ในยุคสมัยใหม่นี้ ประชาชนจีนจะยังคงพัฒนาและปฏิรูปตนเอง และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการพัฒนา ขยายการเปิดตัวสู่ภายนอก สร้างความร่วมมือกับโลก เพื่อให้มีส่วนร่วมมากขึ้นสำหรับมนุษยชาติ
“จีนจะยืนยันการเปิดกว้างสู่ภายนอกรอบด้าน และดำเนินการปฏิรูปโดยไม่กลัวความลำบาก จีนยืนหยัดในนโยบายเอื้อประโยชน์แก่กันและได้รับชัยชนะร่วมกัน ยืนหยัดนโยบายก้าวสู่โลกไปพร้อมกัน ส่งเสริมให้มีการเชื่อมโยงกันระหว่างทะเลและแผ่นดิน ทั้งภายในและภายนอก ภาคตะวันออกและตะวันตก และจะใช้นโยบายเพิ่มความสะดวก ให้อิสระการค้าและการลงทุน ทดลองสร้างท่าเรือการค้าเสรีที่มีเอกลักษณ์ของจีน ”
นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ถึงจีนจะพัฒนาไปมากเพียงใดก็ตาม ล้วนจะไม่คุกคามผู้ใด และจะไม่ล้มล้างระบบสากลที่มีอยู่ปัจจุบัน หรือสร้างอิทธิพล จีนจะเป็นผู้ที่ร่วมสร้าง พัฒนา และรักษาระเบียบสากล
นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่า จีนจะเปิดสู่โลกภายนอกให้กว้างมากยิ่งขึ้น
“จีนจะเพิ่มการประสานกับหลักการของการค้าระหว่างประเทศสากล เพิ่มความโปร่งใส เพิ่มการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่งเสริมการแข่งขัน ต่อต้านการผูกขาด และในช่วงครึ่งปีแรกนี้ จีนจะปรับแก้บัญชีรายชื่อต้องห้ามการลงทุนของต่างชาติ ปีนี้จีนจะจัดตั้งสำนักงานสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ ปรับปรุงให้การปฏิบัติตามกฎหมายสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ลดการกระทำผิดกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็นตัวชี้วัด จีนส่งเสริมวิสาหกิจระหว่างจีนกับต่างประเทศให้ดำเนินการแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางเทคโนโลยีที่ คุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายของวิสาหกิจทุนต่างชาติในจีน ขณะเดียวกัน จีนก็หวังว่ารัฐบาลต่างประเทศจะส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของจีนด้วย”
ในเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ จีนจะจัดงานแสดงสินค้าการนำเข้านานาชาติจีนที่นครเซี่ยงไฮ้ นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า งานแสดงสินค้าครั้งนี้ เป็นครั้งสำคัญที่จีนเปิดตลาดสู่ภายนอก เป็นการพิสูจน์นโยบายของจีน
นายสี จิ้นผิงเน้นว่า แม้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เสนอโดยประเทศจีน แต่โอกาสและความสำเร็จที่นำมา เป็นของโลก ประเทศจีนยินดีที่จะต้อนรับทุกฝ่ายเข้าร่วม และไม่เคยทำการค้าขายโดยใช้อำนาจเหนือคนอื่น
“โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เป็นโครงการที่เสนอขึ้นใหม่ ฉะนั้น ในความร่วมมือ อาจเกิดความคิดที่แตกต่างถือเป็นเรื่องธรรมดา ทุกฝ่ายจำเป็นต้องยึดหลักการปรึกษาหารือร่วมกัน สร้างสรรค์ร่วมกัน และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างสรรค์โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ให้กลายเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ และเป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลก”