“ชีวประวัติพระเก๋อซาเอ่อ” เป็นมหากาพย์ของเชื้อชาติทิเบต มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มหากาพย์ดังกล่าวมีความสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ ได้รับการแพร่หลายอย่างกว้างขวางในพื้นที่ทิเบตโดยใช้วิธีการถ่ายทอดแบบปากต่อปาก สร้างผลงานและการสื่อสารแบบการร้องและพูดที่ไม่เหมือนใคร แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ปัจจุบัน ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบต ตี๋ชิ่ง ศิลปะการร้องและพูดเก๋อซาเอ่อได้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีตัวตนและใกล้จะสูญหายไป มีคนรุ่นหลังเพียงไม่กี่คนที่สามารถร้องเก๋อซาเอ่อได้
คุณเหอ จินเหมย ปัจจุบัน เธออายุ 53 ปี ทุกครั้งที่เธอร้องเพลง “ชีวประวัติพระเก๋อซาเอ่อ” มักจะทำให้ผู้ฟังซาบซึ้งจนน้ำตาไหล
“ฉันได้รู้จักศิลปะการร้อง และพูดเก๋อซาเอ่อเป็นครั้งแรกเมื่อฉันอายุได้ 14 ปี มันทำให้ฉันรู้สึกประทับใจและตกหลุมรักเก๋อซาเอ่อ” ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา คุณเหอ จินเหมย ได้เรียนรู้วิธีการร้องจากคุณเหอ หมิงหยวน ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้สืบทอดมรดกระดับชาติของมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีตัวตนระดับโลก เพลงเก๋อซาเอ่อในสมัยโบราณกาลไม่ได้ถูกจดบันไว้ในลักษณะโน้ตเพลง ดังนั้น การสืบทอดเพลงดังกล่าวจึงต้องอาศัยการท่องจำของผู้เรียนเท่านั้น เพลงเก๋อซาเอ่อมีทั้งหมด 52 บท ปัจจุบัน คุณเหอ จินเหมย สามารถร้องได้ครบทั้ง 52 บทแล้ว
ชาวท้องถิ่นของตี๋ชิ่งได้คิดค้นหลากหลายวิธี เพื่อรักษาไม่ให้มรดกศิลปะการร้องเก๋อซาเอ่อสูญหายไป เพื่อเป็นการเผยแพร่เพลงเก๋อซาเอ่อคุณเหอ จินเหมย ได้ขับร้องเพลงในโอกาสต่าง ๆ คุณเหอ หมิงหย่วนเองก็ชื่นชมในตัวหลานของเขาอยู่ไม่น้อย และเขาหวังว่าต่อไปจะมีคนอีกมากช่วยสืบทอดศิลปะแบบดั้งเดิมเหล่านี้เอาไว้ “ฉันจะยังคงร้องเพลงต่อไป เพื่อให้เรื่องราวเก๋อซาเอ่อถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ฉันหวังว่า คนทั่วไปจะได้เข้าใจและเรียนศิลปะที่มีมาแต่โบราณของชนชาติทิเบตนี้มากขึ้น”