“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับการเปิดประตูบ้านของมณฑลยูนนาน

2018-12-11 15:59:05 |แหล่งที่มา: CRI

“มณฑลยูนนาน” มณฑลทางใต้ของจีน นับเป็นหนึ่งในกลุ่มมณฑลที่เปิดตัวสู่ภายนอกที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุด ปัจจุบัน สิ่งที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กำลังพายูนนานเชื่อมสัมพันธ์กับประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงกระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทุกคนต่างร่วมกันจดจำเรื่องราวแห่งมิตรภาพ สันติภาพและการพัฒนาไปด้วยกัน

นับตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ปี 2017 เส้นทางเดินเรือการท่องเที่ยวแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงได้เริ่มเปิดใช้ ก็เท่ากับว่าบันทึกหน้าใหม่ของการขนส่งนักท่องเที่ยวทางน้ำในลุ่มแม่น้ำล้านช้างได้เริ่มต้นขึ้นด้วย

เมื่อปี 2016 “โครงการพัฒนาเส้นทางขนส่งแม่น้ำล้านช้างแม่น้ำโขง” ซึ่งร่วมวางแผนโดย 4 ประเทศ อันได้แก่ จีน ไทย ลาว และเมียนมาร์ ซึ่งเป็น 4 ประเทศเส้นทางการขนส่งแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง มีแผนจะขยายออกไปถึงเมืองหลวงพระบางของลาว อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ใหญ่หลวงต่อประชาชนที่อยู่เลียบชายฝั่ง

นับแต่ก้าวแรกของความสำเร็จในเส้นทางเดินเรือนานาชาติ จนถึงการร่วมกันวางพิมพ์เขียวโครงการการพัฒนาการเปลี่ยนเส้นทางอันตรายของแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง ให้เป็นเส้นทางเดินเรือที่สะดวกปลอดภัย คือ ภาพย่อของการเชื่อมโยงนโยบายส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของภูมิภาคนี้ ในฐานะเป็นมณฑลที่มีบทบาทเข้าร่วมความร่วมมือที่สำคัญระดับภูมิภาคของนโยบายเปิดยูนนานเชื่อมโยงสู่ภายนอก ได้นำมาซึ่งประโยชน์สุขร่วมกันกับประเทศแถบลุ่มน้ำ

ขณะเดียวกัน “วงเพื่อนนานาชาติ” ของยูนนานนับวันกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วย ได้สร้างความสัมพันธ์เพื่อนสนิทกับ 33 ประเทศ สร้างกลไกความร่วมมือระดับทวิภาคีกับท้องถิ่น 11 แห่งใน 9 ประเทศ ความร่วมมือกับต่างประเทศมีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 25 กันยายน ปี 2004 ประเทศจีนได้ประเดิมส่งกระแสไฟฟ้าให้เวียดนามเป็นครั้งแรก โครงข่ายการไฟฟ้าหงเหอได้ทำการจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ 110 กิโลวัตต์ จากเหอโข่วถึงเมืองหล่าวกายของเวียดนาม นับแต่วันนั้นมา การเดินทางออกนอกประเทศเพื่อจดมิเตอร์ไฟฟ้าเดือนละครั้งจึงกลายเป็นหน้าที่ของนายโม่ สีหมิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทการไฟฟ้ายูนนานจำกัด ตราบจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ เขาได้เดินทางออกนอกประเทศไปจดมิเตอร์ไฟฟ้า 149 ครั้งแล้ว ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นี้ นายโม่ สีหมิงได้กลายเป็น “ผู้เชี่ยวชาญเวียดนาม” และเป็นประจักษ์พยานถึง “การก้าวออกไป” ของการไฟฟ้ายูนนาน

ณ วันนี้ ยูนนานได้นำแสงสว่างไปสู่ครัวเรือนในหมู่บ้านต่างๆของประเทศข้างเคียง ขณะเดียวกัน ยูนนานยังได้สร้างการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ทางด่วนไปถึงพื้นที่เขตชายแดน สนามบินนานาชาติฉางสุ่ย ซึ่งเมืองคุนหมิงมีเที่ยวบินสู่เมืองใหญ่ต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ สำหรับทางรถไฟจีน-ลาวก็ได้ทำการก่อสร้างทั้งในเขตพรมแดนและนอกพรมแดนไปพร้อม ๆ กันด้วย นอกจากนี้ ยูนนานยังเป็นหนึ่งในสี่ช่องทางนำเข้าส่งออกนานาชาติของจีน

ในเทศกาลวันแม่ การมอบดอกคาร์เนชั่นสักช่อให้กับมารดา นับเป็นรูปแบบหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกนิยมใช้แสดงออกถึงความซาบซึ้งในพระคุณแม่ ซึ่งหลายคนคงยังไม่รู้ว่า ตอนที่ดอกคาร์เนชั่นยังเป็นเพียงต้นกล้าอ่อนอยู่นั้น ได้งอกงามอยู่บนแผ่นดินสีแดงของยูนนาน

บริษัทอุตสาหกรรมไม้ดอกอิงเม่าจำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเสี่ยวเส้า เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน นายเซียว วั่งเป่า ประธานบริษัทกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า การเพาะต้นกล้าคาร์เนชั่นของบริษัทได้จำหน่ายส่งไปไกลไปถึงประเทศญี่ปุ่น ฮอลแลนด์ สเปน อิตาลี และอิสราเอล เป็นต้น ซึ่งแต่ละมีการปีส่งออกมากกว่าสิบล้านต้น ในจำนวนนี้ ต้นกล้าคาร์เนชั่น 30 เปอร์เซนต์ในตลาดญี่ปุ่นมาจากบริษัทของเขา

ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ การส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของยูนนานเพิ่มขึ้น กลายเป็นจุดเด่นของการค้ากับต่างประเทศของยูนนาน ดอกไม้สดของตลาดดอกไม้โต้วหนานคุนหมิง ก็ได้ส่งออกไปจำหน่ายไกลถึงกว่า 40 ประเทศและเขตแคว้น ผักสดยูนนานจำหน่ายไปถึงกว่า 20 ประเทศและเขตแคว้นเช่นกัน และกิจการที่ถือเป็นดั่งเส้นคู่ขนานกันไปด้วยนี้คือ ในตลาดคุนหมิงมีผลไม้จากประเทศไทย เช่น มะม่วง ลำไย สับปะรดจิ๋วและชมพู่ เป็นต้น ก็ได้รับความชื่นชอบจากผู้บริโภค เที่ยวบินที่ออกเดินทางมาจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะนำอาหารทะเลจากมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียส่งมายังคุนหมิง และใช้คุนหมิงเป็นศูนย์กลางส่งกระจายสินค้าไปขายต่อยังนครเซี่ยงไฮ้ กวางเจา และกรุงปักกิ่ง เป็นต้น การค้าพืชผลเกษตรที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดี ยังเป็นการช่วยเพิ่มรายรับให้กับเกษตรกรผู้ผลิตในยูนนานและประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปพร้อมกันด้วย

บริษัทหัตถกรรมทอผ้าไหมซีฮั่ว เป็นบริษัทของนักธุรกิจชาวลาว ที่ประกอบธุรกิจค้าผ้าไหม ด้วยออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้น จำเป็นต้องขยายโรงงาน แต่ต้องประสบกับอุปสรรคสำคัญคือ ขาดแคลนทุนทรัพย์ เจ้าของกิจการจึงมาปรึกษาขอคำแนะนำกับธนาคารลาวจีน ซึ่งธนาคารลาวจีนก็ได้ให้ธนาคารสากลฝ่ายสินเชื่อส่งเสริมพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในลาวแนะนำประสานหาผู้ร่วมลงทุนให้

ทั้งนี้ ธนาคารลาวจีน เป็นองค์กรการเงินที่ร่วมลงทุนโดยธนาคารฟู่เตียนกับธนาคารการค้าต่างประเทศลาว และเป็นธนาคารร่วมทุนจีน-ลาวแห่งแรกที่ได้รับการอนุมัติโดยสมาคมกำกับดูแลธนาคารแห่งประเทศจีนและธนาคารชาติลาว เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 หลังจากผ่านอุปสรรคเรื่องเป้าหมายการลงทุนต่าง ๆ ธนาคารลาวจีนจึงได้ก่อตั้งขึ้นในรูปบริษัทตัวแทนเงินกู้การลงทุน SME

หลังจากรับหนังสือคำร้องของบริษัทหัตถกรรมทอผ้าไหมซีฮั่ว ในระหว่างดำเนินการธนาคารลาวจีนพบว่า บริษัทดังกล่าวมีความเสี่ยงด้านบัญชีการเงิน ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหายุ่งยากนี้ ธนาคารลาวจีนจึงได้ทำการตรวจสอบตลาดการผลิตไหมลาวและวิเคราะห์กิจการ พร้อมนำมาเปรียบเทียบกับสภาพรายรับรายจ่ายของบริษัทซีฮั่ว และสรุปออกมาเป็นรายงานการตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วจึงให้การอนุมัติในท้ายที่สุด แก้ปัญหาให้กับบริษัทหัตถกรรมทอผ้าไหมซีฮั่วข้ามพ้นวิกฤติไปได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งของ “การเปิดประตูบ้านของยูนนาน” และก็ถือเป็นเรื่องราวร่วมกันของคนยูนนานกับประชาชนประเทศเพื่อนบ้านรายทาง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทั้งหลายด้วย

บรรณาธิการ สุพรรณี
滇ICP备 09002441号
中华人民共和国国务院新闻办公室 支持指导
云南省人民政府新闻办公室 主办
云南日报报业集团 承办
本网站由云桥网版权所有,未经授权禁止复制或建立镜像
Copyright ©yunnangateway.com All Rights Reserved since 2006