นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ธุรกิจดิจิทัลเป็นนวัตกรรมใหม่ของรูปแบบการค้าขายในปัจจุบัน หวังว่าวิสาหกิจของไทยจะใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนให้เกิดประโยชน์ในการเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน “สถานีต่อไป จีน” ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือของอาคารไทยซี.ซี./หอการค้าไทย สำนักงานบริการข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจจีน สำนักข่าวซินหัวเส้นทางสายไหม
เขากล่าวว่า “ประเทศจีนคือประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย และประเทศไทยก็เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนมีชัยภูมิที่ได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดไทย-จีนมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกันมายาวนานผลไม้ไทยข้าวไทยและผลิตภัณฑ์ยางพาราไทยกำลังเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้นและได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ”
เขาเห็นว่า แพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์ของจีนมีมาตรฐานในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าของผู้ประกอบการที่เข้ามาค้าขายบนแพลตฟอร์มอีกทั้งทุกแพลตฟอร์มใหญ่ๆยังเปิดกว้างให้ผู้บริโภคประเมินคุณภาพสินค้าและบริการพร้อมเปิดเผยการประเมินอย่างเป็นสาธารณะ
ดังนั้น วิสาหกิจไทยที่เข้าไปเปิดร้านบนแพลตฟอร์มจีนก็จะได้ยกระดับแบรนด์ของตนเองและยกระดับการแข่งขันทางการค้า
นายสนธิรัตน์ แนะนำว่า “การเข้าสู่ตลาดจีน”คือเป้าหมายของกลยุทธ์การพัฒนาวิสาหกิจเหล่านี้ต้องการเรียนรู้ว่าจะใช้แพลตฟอร์มธุรกิจออนไลน์ของจีนในการเข้าสู่ตลาดจีนอย่างรวดเร็วและประหยัดต้นทุนได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ การบรรยายที่พูดเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวจึงนับว่าตรงตามความต้องการของวิสาหกิจไทย
การบรรยายครั้งนี้จัดขึ้นโดยศูนย์บริการธุรกิจไทยจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำตัวอย่างการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนที่ได้รับผลสำเร็จให้แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและช่องทางการให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงของประเทศไทยในการเข้าสู่ตลาดจีน
การบรรยายครั้งนี้ได้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 700 คน ทั้งจากวงการธุรกิจและการเมืองของไทย รวมทั้งผู้ประกอบการจีนและไทย